ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 22-08-2015, 18:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้นก็ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นว่า การเกิดมานั้นประกอบด้วยความไม่เที่ยงเป็นปกติ เกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง ตายไปในที่สุด มีความทุกข์เป็นปกติ โดยเฉพาะความทุกข์ที่เราเห็นอยู่ก็คือ ฝนแล้งและน้ำท่วม เป็นต้น ในเมื่อบังคับบัญชาไม่ได้ ดังนั้น..จึงไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของเรา ให้ยึดถือมั่นหมายได้

ร่างกายนี้เป็นเพียงเปลือกที่เรามาอาศัยอยู่ชั่วคราว เหมือนกับรถยนต์คันหนึ่ง ให้เราอาศัยขับไปสร้างบุญสร้างกรรมตามแต่ปัญญาของตน พอถึงวาระสุดท้าย ร่างกายนี้เสื่อมสลายตายพังไป ตัวเราก็ไปตามบุญตามบาปที่ได้สร้างไว้ เราเกิดมาแล้วต้องตายอย่างแน่นอน ขึ้นชื่อว่าตายแล้วต้องเกิดมาทุกข์เช่นนี้เราไม่ต้องการอีกแล้ว เราต้องการอย่างเดียวคือพระนิพพาน

เมื่อทบทวนมาถึงตรงนี้ ก็ให้กำหนดใจคิดถึงภาพพระองค์ใดองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบไว้ จะเป็นพระพุทธรูปก็ดี จะเป็นพระเครื่องก็ตาม นึกถึงภาพพระองค์ท่านว่านั่นเป็นพระพุทธนิมิตแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ที่ใดนอกจากพระนิพพาน เราเห็นพระองค์ท่านก็คือเราอยู่กับพระองค์ท่าน เราอยู่กับพระองค์ท่านก็คือเราอยู่บนพระนิพพาน ให้เอาใจจดจ่ออยู่กับภาพพระองค์ท่านเอาไว้ ตั้งใจว่า..ถ้าวันนี้เราหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราขอมาอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพานนี้แห่งเดียวเท่านั้น

หลังจากนั้นก็ดูลมหายใจและคำภาวนาของเรา ถ้ายังมีลมหายใจอยู่ ให้ตามดูตามรู้ลมหายใจของเรา ถ้ายังมีคำภาวนาอยู่ ให้กำหนดคำภาวนาไปด้วย ถ้าลมหายใจเบาลงหรือหายไป คำภาวนาหายไป ให้กำหนดรู้ว่าขณะนี้ลมหายใจเบาลงหรือหายไป คำภาวนาหายไป อย่าไปดิ้นรนอยากพ้นจากสภาพนั้น หรืออย่าพยายามฝืนเพื่อให้เป็นสภาพนั้น เรามีหน้าที่ตามดูตามรู้ลมหายใจเข้าออกหรือคำภาวนาเท่านั้น ให้ทุกท่านรักษาอารมณ์ของตนเองเอาไว้เช่นนี้ จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๘

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2015 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา