๔. ร่างกายเป็นเพียงธาตุ ๔ มีอาการ ๓๒ มารวมกันเป็นเหยื่อล่อของกิเลส เป็นเหยื่อล่อของตัณหา หากปรารถนาจักทิ้งร่างกาย ต้องการมรรคผลนิพพาน ก็จงอย่าทิ้งการพิจารณาร่างกาย (ด้วยกายคตาฯ อสุภกรรมฐาน และมรณาฯ อุปสมานุสติ) สร้างความเบื่อหน่ายในร่างกายให้เกิดอย่างจริงจัง (ด้วยวิปัสสนาญาณ ๙) รวมทั้งไม่ปรารถนาการเกิดในภพชาติใด ๆ อีก ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีความหมายสำหรับชีวิต มีเพียงจุดเดียวเท่านั้น คือละ – ปล่อยวางไม่เกาะติดกังวลกับสิ่งใด ๆ อีก
มีงานทำก็ทำไปไม่กังวล ปล่อยวาง ถือว่าทำเพียงหน้าที่เท่านั้น อย่าไปเกาะติดให้เป็นกังวล โจทย์จิตไว้ให้พร้อมทุกเมื่อ เมื่อจักละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อไปพระนิพพานจุดเดียว อะไรจักเกิดขึ้นก็ปล่อยวาง ทำเพียงหน้าที่ไม่ห่วงใย ไม่กังวล แม้แต่กายสังขารของตนเองจักดับสิ้นไป ให้พิจารณาร่างกายให้เห็นอาการ ๓๒ ธาตุ ๔ จนเห็นชัด จนจิตคลายความเกาะติดในร่างกาย ไม่เห็นความสำคัญของร่างกาย สักเพียงแต่ว่ายังอัตภาพให้เป็นไปตามกรรมเท่านั้น มันจักพังเมื่อไหร่.. ให้จิตพร้อมยอมรับการพังนั้นทุกเมื่อ ไม่ดิ้นรนเดือดร้อนไปกับมัน จิตจับอารมณ์รักพระนิพพานให้แนบแน่นอย่างเดียวก็เป็นพอ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-09-2013 เมื่อ 17:10
|