ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 11-01-2018, 03:34
นักเดินทางสังสารวัฏ นักเดินทางสังสารวัฏ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2016
ข้อความ: 77
ได้ให้อนุโมทนา: 139
ได้รับอนุโมทนา 2,965 ครั้ง ใน 205 โพสต์
นักเดินทางสังสารวัฏ is on a distinguished road
Default ลักษณะเด่นของผู้ปรารถนาพุทธภูมิ

๑ สังขาร ในขันธ์ ๕ ที่แปลว่าความคิด ผมพิจารณาอย่างไรจิตผมไม่ยอมรับว่าสังขารเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพราะผมรู้สึกว่าความคิดดีและความคิดชั่วเป็นของเรา ยกตัวอย่างผมคิดว่าอีก ๑๐ วัน เราจะไปทำสังฆทาน ตัวนี้เป็นตัวคิดดีคือกุศลธรรม หรือผมคิดว่า อีก ๑๐ วันเราชวนเพื่อนไปดื่มเหล้าดีกว่า อันนี้เป็นคิดชั่ว คือ อกุศลธรรม และจะพาคนอื่นชั่วอีกด้วย สรุปได้ว่าจะคิดดีจะคิดชั่วก็อยู่ที่เรา แปลว่าความคิดดีและคิดชั่วเป็นของเรา หลวงพ่อช่วยอธิบายให้ผมเป็นสัมมาทิฐิ ทีครับ

๑.๑ ผมอ่านกระโถนข้างธรรมมาสน์ เลยทราบว่าหลวงพ่อได้เจอพระโพธิสัตว์เป็นจำนวนมาก และหลวงพ่อก็เคยเป็นพระโพธิสัตว์ ผมสงสัยครับการวางกำลังใจพระโพธิสัตว์จริง ๆ เขาวางอย่างไร เพราะตัวสังโยชน์ ๑๐ ข้อผมทรงได้แค่อารมณ์พระโสดาบัน เพราอาศัยฌาน ๑ เลยทำให้เชื่อพระพุทธเจ้าว่า บาป บุญ สวรรค์ พรหม และ นิพพาน มีจริงและหลวงพ่อวัดท่าซุงเคยเทศน์อารมณ์พระอริยเจ้าขั้นต่าง ๆ ไว้ แต่ผมก็ทำไม่ได้เพราะไม่ได้ทรงฌานสมาบัติ ทำให้ปัญญาผมหาเหตุ หาผลไม่เจอ อยากทราบว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับถ้าผมหรือผู้ปรารถนาพุทธภูมิท่านอื่น ๆ อยากเข้าใจอารมณ์พระอริยเจ้าเบื้องสูง ผมต้องทรงฌานสมาบัติก่อนอย่างแรก แล้วค่อยเจริญวิปัสสนากรรมฐาน จะได้หาเหตุหาผลเจอ เพราะตอนที่ผมทรงฌาน ๑ ครั้งแรกอารมณ์ผมมันเบา และสดชื่นจริง ๆ และคิดอะไรไวเป็นเหตุเป็นผลไปหมด และสังเกตหน้าตาตัวเองเหมือนคนเบื่อโลกและไร้อารมณ์ เหมือนที่หลวงพ่อเขียนไว้เลย

๑.๒ นิพพาน ปรมังสุขขัง ที่แปลว่านิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง ผมอยากทราบว่าพระโพธิสัตว์สามารถมีอารมณ์สุขอย่างที่ว่าได้หรือเปล่าครับ เพราะความสุขที่สุดในชีวิตของผมก็คือฌาน ๑ เลยอยากมีความสุขแบบพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์

๒. เวลาผมดูลมหายใจเข้าออก และจิตอยากคิดดีไปในอนาคตดู เช่นถ้าเราทรงฌานสมาบัติ และอภิญญาได้เมื่อไหร่ เราจะเอากำลังอภิญญาสร้างพุทธรูปทองคำด้วยอำนาจกสิณ ถวายเป็นพุทธบูชา หรือจะช่วยเผยแพร่พระพุทธศาสนา และผมลองเอามรณานุสติมาแก้ ผมก็มีความรู้สึกว่า ไม่อยากคิดทั้งดีและคิดชั่วไปอนาคต เพราะว่าเป็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น อยากจะอยู่กับอารมณ์เฉย ๆ อยู่กับลมหายใจอย่างเดียว คือพูดง่าย ๆ อยากอยู่กับปัจจุบันมากกว่าที่จะไปบังคับให้จิตคิดไปอนาคต เพราะว่าผมอาจจะตายเมื่อไรก็ได้ ควรเอาสติอยู่กับลมหายใจมากกว่าไปคิดเรื่องดีหรือเรื่องเลว ในอนาคต อยากทราบว่าอารมณ์ที่กล่าวมาแบบนี้ควรจะแก้ไขหรือเปล่าครับ

๓.จากคำตอบต้นเดือนมกราคมที่หลวงพ่อผมบอกให้ผมมีอิทธิบาท ๔ เพื่อจะได้ทรงฌานได้อีกครั้ง ผมก็เห็นด้วยกับหลวงพ่อและผมได้ฟังธรรมที่หลวงพ่อวัดท่าซุงเทศน์เรื่องสติปัฏฐาน และ บารมี ๑๐ ผมสงสัยครับว่าการจะทรงฌาน ๔ จากอานาปานสติในฐานะฆราวาส ยากแค่ไหนครับเพราะผมอยากเข้าฌาน ออกฌาน สลับฌานเก่งเพื่อสุขปัจจุบัน และผมจำได้แม่นเลยตอนที่ผมทรงฌาน ๑ ครั้งแรกผมสุขจริง ๆ ครับ สุขยิ่งกว่ากามสุขทั้งโลกนี้อีก อารมณ์มันเบาไปหมด และผมอยากไปเจอสุขยิ่งกว่านี้

๓.๑ ถึงผมรู้ว่าสุขจากฌานมันสุขมาก ๆ ขนาดผมได้แค่เข้าฌาน ๑ แต่ทุกวันถ้าผมรู้สึกตัวผมก็พยายามจะทำอานาปานสติ เวลาพอทำสมาธิ จิตใจผมตั้งมั่นและผมบังคับจิตคิดสิ่งที่ผมต้องการทั้งทางโลกและธรรม แต่ทางโลกจะไปด้านจีบสาว ๆ และการเรียน แต่จะไม่ผิดศีล ๕ เพราะนรกอาจจะรอผมอยู่ แต่ทางธรรมผมก็ใช้สมาธิและปัญญาพยายามทรงเมตตาบารมีและหาความจริง อย่างเช่นจริง ๆ แล้วเราคือจิต ไม่ใช่ร่างกายแต่อาศัยอวิชชาและบุญและบาปเลยไปเกิดภพภูมิต่าง ๆ ตั้งแต่พรหม ยัน นรก แต่อาศัยจิตที่มีพระมหากรุณาธิคุณอย่างจิตของพระพุทธเจ้าและพระอริยเจ้า ที่ช่วยขนย้ายดวงจิตที่มีอวิชชาพาไปพระนิพพาน เลยทำให้ผมศรัทธาพระรัตนตรัย

๓.๒ จากข้อก่อนหน้านี้ที่ผมรู้ว่าจริง ๆ เราคือจิต และผมลึก ๆ อยากจะใช้ประโยชน์ของธรรมชาติก็คือจิตพาดวงจิตอื่น ๆ ที่ไม่รู้ที่มีอวิชชา ไปแดนพระนิพพานมาก ๆ แบบจิตของพระพุทธเจ้า แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าผมตั้งใจอย่างนี้เป็นเพราะผมรักและสงสารดวงจิตที่ยังเกิด แก่ เจ็บ ตาย ในวัฏสงสารจริง ๆ หรือเป็นเพราะผมคิดไปเองเพราะผมอายุแค่ ๒๑ ในฐานะที่หลวงพ่อเคยเป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีมาหลายอสงไขยและทรงจรณะ ๑๕ ผมอยากทราบว่าลักษณะเด่นของคนที่ปรารถนาพุทธภูมิจริง ๆ เป็นอย่างไรหรือครับ
เพราะผมเอาบารมี ๑๐ มาวัดกำลังใจตัวเองแบบไม่เข้าข้างตนเองรู้สึกว่าเรายังดีไม่พอ มีหลายอย่างที่ต้องแก้ไข

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2018 เมื่อ 17:57
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นักเดินทางสังสารวัฏ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา