ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 15-03-2024, 22:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,280 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วท่านก็ยังอธิบายต่อไปว่า พระอรหันต์ยังมีความอยากอยู่ อย่างเช่นว่าอยากสงเคราะห์ชาวบ้าน อยากที่จะก่อสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพุทธศาสนิกชน หรือเป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ตรงนี้อยากจะเรียนคุณหมอให้ทราบไว้ว่า สิ่งนั้นไม่ใช่ความอยาก บุคคลถ้าหากว่าเข้าถึงความเป็นพระอรหันต์จริง ๆ แล้ว ไม่มีใครที่คิดอยากทำสิ่งหนึ่งประการใดต่อ ยกเว้นว่ามีบุญสัมพันธ์ มีกรรมสัมพันธ์ หรือว่ามีภาระหน้าที่ซึ่งได้ตั้งใจเอาไว้ก่อนหน้านั้น

ถ้าหากว่ามีบุญสัมพันธ์ มีกรรมสัมพันธ์ กับบุคคลหนึ่ง หรือคณะบุคคลหนึ่งก็ดี หรือว่ามีภาระหน้าที่ซึ่งได้อธิษฐาน หรือตั้งใจไว้ว่าจะมาทำงานนั้นก็ดี ท่านทั้งหลายเหล่านี้ถึงจะต้องทำงานต่อ แต่เป็นการทำตามบุญ
ตามกรรมนั้น ๆ หรือว่าเป็นการทำตามภาระหน้าที่ซึ่งได้ตั้งใจเอาไว้ ไม่ใช่ทำเพราะว่าท่านอยากทำ

โดยเฉพาะในจุดที่ว่า ท่านมาอธิบายถึงอารมณ์ใจของพระอริยเจ้าระดับสูงอย่างพระอรหันต์เลย บุคคลที่จะอธิบายได้อย่างถูกต้องแท้จริง ก็ต้องเป็นพระอรหันต์เท่านั้น ไม่ใช่บุคคลทั่ว ๆ ไป ซึ่งอาจจะเรียนจบแพทย์มาด้วยเกียรตินิยมอันดับ ๑ หรือว่าเรียนจบปริญญาเอกมาด้วยคะแนนยอดเยี่ยม วิทยานิพนธ์ยอดเยี่ยม เนื่องเพราะว่าสิ่งที่ท่านรู้ ท่านรู้ด้วยไอคิว ด้วยกำลังของสมองซึ่งเป็นปัญญาทางโลก ๆ จัดเป็นได้แค่สุตมยปัญญา และจินตมยปัญญาเท่านั้น หาได้เข้าถึงความเป็นภาวนามยปัญญาไม่

บุคคลที่จะเข้ามาสู่หนทางแห่งธรรม ตามที่คุณหมอได้อธิบายเอาไว้มากมาย ฟังดูสำนวนแล้วก็เหมาะกับคนรุ่นใหม่มาก แต่ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ตั้งคำถามกับทุกเรื่อง เหมือนอย่างกับมีอาหารอยู่ตรงหน้า ๑ จาน สมมติว่าเป็นผัดกะเพราไข่ดาวก็แล้วกัน คุณหมอก็จะมาตั้งคำถามว่า ข้าวจานนี้หุงมาจากข้าวยี่ห้ออะไร ? ผัดกะเพราะนี้ เป็นเนื้อที่เก็บมาแล้วกี่วัน ? ต้องใช้กะเพรากี่ยอด ? ต้องใช้พริกกี่เม็ด ? หรือว่าไข่ดาวนี้เป็นไข่ดาวที่ทอดมาจากไข่ไก่เบอร์อะไร ? ถ้าอย่างนั้นคาดว่าคุณหมอจะต้องหิวท้องกิ่วต่อไป..!

เนื่องเพราะว่าธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เมื่อท่านเชื่อถือศรัทธาก็จะตั้งหน้าตั้งตาลงมือทำ ถูกต้องที่คุณหมอกล่าวว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้บอกว่าให้เชื่อ ซ้ำพระองค์ท่านยังบอกเสียด้วยว่า อย่าเชื่อด้วยเหตุประการต่าง ๆ ๑๐ อย่างด้วยกัน แล้วให้เชื่อก็ต่อเมื่อพิสูจน์แล้วว่าสิ่งนั้นเป็นความจริง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2024 เมื่อ 01:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา