ความขยันหมั่นเพียรจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมากสำหรับนักปฏิบัติ ต้องมีความอดทนไม่ท้อถอยง่าย ๆ การปฏิบัติไม่มีสิ่งใดที่ง่าย ถ้าเราอ่านดูในพระไตรปิฎก ในพระธรรมบทบ้าง
พระที่ท่านปฏิบัติได้โดยง่าย เราเห็นว่าท่านง่ายเฉพาะชาตินี้ ชาติก่อน ๆ ท่านก็ตะเกียกตะกายลำบากมาไม่น้อยกว่าเราเหมือนกัน เพียงแต่ว่าความดีของท่านสะสมตัวมาเรื่อย ๆ เหมือนอย่างกับน้ำที่เต็มโอ่งเต็มไหแล้ว ถึงเวลาสามารถตักใช้งานได้ทันที ส่วนเราเองยังอยู่ในระหว่างที่สะสมน้ำ สะสมความดีอยู่ จงอย่าท้อถอยง่าย ๆ
ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๖ ได้ทรงประพันธ์เป็นร้อยกรองเอาไว้ว่า
หนทางแห่งเกียรติศักดิ์....จักโรยด้วยดอกไม้
หอมหวลยวนจิตไซร้..............ฤๅมี
หนทางที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จนั้น ไม่มีใครที่ไม่ต้องตะเกียกตะกายด้วยความยากลำบาก
เราอาจะเห็นเขาสบาย นั่นก็คือความสบายในปัจจุบัน แต่ก่อนหน้านี้เขาลำบากมาเท่าไร เราไม่เห็น
ในเมื่อทุกอย่างต้องได้มาด้วยความยากลำบาก โอวาทปาฏิโมกข์ การสรุปรวมหลักการ อุดมการณ์และวิธีการของทางพระพุทธศาสนา ที่พระพุทธเจ้าทรงให้ไว้ในท่ามกลางที่ประชุมสงฆ์ จึงได้ขึ้นคำว่า
ขันตี ปรมัง ตโป ตีติกขา ขันติ คือความอดทนอดกลั้นนั้น เป็นตบะ(เครื่องมือในการเผากิเลส)อย่างยิ่งยวด แปลว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จนั้น จะต้องมีความอดทนอดกลั้นมาเป็นอันดับหนึ่ง
อดทนต่อความยากลำบากในการประพฤติปฏิบัติ อดทนอดกลั้นต่ออารมณ์ต่าง ๆ ที่มากระทบกระทั่งอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งสามารถที่จะใช้ปัญญา ปล่อยวางอารมณ์ทั้งหลายเหล่านั้นลงได้ อยู่ในลักษณะของการสักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าเห็น ไม่นำมานึกคิดปรุงแต่งเพิ่มเติม
แรก ๆ ก็ไม่สามารถที่จะมีสติรู้เท่าทันได้ แต่ถ้าหากเราสั่งสมในเรื่องของศีล สมาธิ ปัญญาไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะตัวสมาธิ ถ้าทรงตัวตั้งมั่น สติก็จะว่องไว ปัญญาก็จะแหลมคม ก็จะสามารถที่รู้เท่าทันสิ่งที่มากระทบใจของเรา สามารถระวังป้องกันไม่ให้เข้ามาอยู่ในใจของเราได้ทันท่วงที