ชื่อกระทู้: จดหมาย...จากใจจริง
ดูแบบคำตอบเดียว
  #25  
เก่า 23-08-2009, 06:40
โยคียุ้ย โยคียุ้ย is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 70
ได้ให้อนุโมทนา: 12,159
ได้รับอนุโมทนา 6,362 ครั้ง ใน 102 โพสต์
โยคียุ้ย is on a distinguished road
Smile จดหมายพระอาจารย์_๒๓


..............................

วัดท่าซุง

๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๐
สวัสดีจ้ะน้องหญิง

จดหมายฉบับนี้ตอบช้าไปหน่อย เพราะหลวงพี่กลับไปเยี่ยมบ้านเสีย ๕ วัน จดหมายของหญิงไปถึงตอนหลวงพี่ไม่อยู่พอดี เข้ากรุงเทพฯ เที่ยวนี้พบความเปลี่ยนแปลงมากมาย แทบหลง... จากไปไม่ถึงปีดี ไม่นึกว่าจะแปลกไปมากขนาดนี้ เอาละ..ตอบจดหมายดีกว่า..
๑. แสงประหลาดที่เกิดในรูปหลวงพ่อ เกิดจากอะไรก็สุดที่หลวงพี่จะเดา แต่ระหว่างที่เป็นฆราวาส หลวงพี่ถ่ายภาพที่เป็นปรากฏการณ์ประหลาดแบบนี้ได้บ่อย ๆ แตกต่างกันไปตามเวลาและสถานที่ ทั้งที่ผู้ชำนาญการถ่ายภาพเองและคนอื่นด้วยต่างก็เคยถ่ายภาพได้ จะเดาก็กลัวจะผิด เดี๋ยวเสียเหลี่ยมลูกกำนันหมด ขอยอมแพ้ ตอบไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร...? หมายถึงอะไร...? และจุดมุ่งหมายคืออะไร...?
๒. ไม่มีรูปแจกทุกคนที่ไปงานหรอกจ้ะ นอกจากหลวงพี่จะแจกในบรรดาเพื่อนฝูงใกล้ชิด เพราะไม่มีเงินมากขนาดนั้น
๓. รูปที่ได้รับ หญิงจะบูชาแบบใดก็ตามแต่เห็นควร พวกหลวงพี่เขาเอาไปเคลือบพลาสติกแบบบัตรประชาชน แล้วพกติดตัว
๔. คำบาลีหญิงอย่าพยายามใช้นะจ๊ะ เพราะถ้าไม่เข้าใจความหมายถ่องแท้จะเข้าใจผิดไปใหญ่ “วิมุติญาณทัสนะ” ต้องแยกศัพท์เป็น วิมุติ=ความหลุดพ้น, ญาณ= เครื่องรู้, ทัสนะ= การเห็น รวมเป็น “การรู้เห็นเพื่อการหลุดพ้น” ต่างกับญาณทัสนะ “การรู้เห็น” คือ วิมุติญาณทัสนะ ถ้าปฏิบัติได้ก็หลุดพ้นจากโลกเป็นโลกุตตระ (เหนือโลก) ขณะที่ญาณทัสนะ ถึงปฏิบัติได้ก็เอาตัวไม่รอดเพราะเป็นโลกียะ (คลุกคลีกับโลก) ปฏิบัติอย่างไรถึงจะถึง “วิมุติ”? พูดกันสิบปีก็ไม่จบ สรุปย่อว่าปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญา ในสัมมาปฏิบัติให้ครบถ้วนบริบูรณ์ก็จะ “วิมุติ” จ้ะ นับแล้ว “วิมุติญาณทัสนะ” สูงกว่า “ญาณทัสนะ” มาก
๕. หลวงพ่อเคยผ่านวิมุติหรือไม่หลวงพี่ไม่ทราบและไม่คิดจะทราบ ทราบแค่ว่าสิ่งที่ท่านสอนมีมากมายมหาศาลจนทำได้ไม่จบ เลยไม่มีเวลาแม้แต่จะสงสัย ถ้าทำจนจบความรู้ของท่านคงจะตอบได้ แต่หลวงพี่ไม่ทราบว่า ชาตินี้จะเรียนจบหรือไม่ ถ้าจบจะตอบหญิงเอง รอไปสักชาติหน้าตอนค่ำ ค่ำนะจ๊ะ ...ฮิ...ฮิ...!
๖. สันติอโศกมีการปฏิบัติแนวไหนหลวงพี่ไม่ทราบเอาเสียเลย พอชอบใจธรรมะของหลวงพ่อ หลวงพี่ก็ลงหลักปักฐาน ไม่เหลียวแลใคร ตั้งหน้าทำตามคำสอนหลวงพ่ออย่างเดียว เลยโง่มากกับเรื่องอื่น ๆ เพราะไม่มีเวลาไปสนใจจริง ๆ (ตอบไม่ได้อีกแล้ว) หญิงละจ๊ะ...? เห็นว่าสันติอโศกเป็นอย่างไร มีเวลาเล่าไปให้ทราบบ้างนะจ๊ะ
๗. “กรรม” คือ “การกระทำ” “ดวง” คือ “ผลที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำมาก่อน” สรุปกรรมทำให้เกิดดวง ถ้าเกิดขึ้นแล้วเรียกว่าเสวยผลแห่งกรรม (ดีหรือเลวก็แล้วแต่กรรม) ถ้ายังไม่เกิดขึ้น แต่ผู้รู้สามารถรู้ว่าจะเกิดขึ้นคือดวง
๘. การดูลายมือ+ลักษณะนิสัย ถ้าชำนาญสามารถทายถูกถึง ๘๐% เพราะโบราณาจารย์ เก็บรวบรวมสถิติของผู้มีลายมือแบบนี้ เป็นจำนวนมาก และด้วยระยะเวลาอันยาวนาน มาผูกขึ้นเป็นตำรา ดังนั้น ลายมือแบบไหนเป็นอย่างไร ลักษณะแบบไหนเป็นอย่างไร ก็ใกล้เคียงกับตำรา น้อยรายที่แหกคอกออกไป หลวงพี่เชื่อคนที่เรียนรู้ด้านนี้เพื่ออนุรักษ์ความรู้ แต่ไม่เชื่อคนเรียนรู้เพื่อหากินมากนัก เพราะอย่างหลังบางรายหลอกลวงเพื่อหาผลประโยชน์ แนวทางแก้ปัญหาแบบนี้เป็นไปทางโลก เพราะพุทธศาสนาสอนให้ยอมรับกฎของกรรม

ฉบับนี้ทำให้หญิงผิดหวังหรือเปล่าที่บางข้อหลวงพี่ตอบไม่ได้ และสงสัยไหมว่าทำไมถึงตอบไม่ได้...?

ใกล้สอบแล้วขออวยพรล่วงหน้าให้หญิงสอบได้ และขอให้มีความสุขมาก ๆ ในวันแห่งความรัก

จากใจจริง
หลวงพี่
______________
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg 29.1.JPG (94.3 KB, 15 views)
ชนิดของไฟล์: jpg 029.2.JPG (92.8 KB, 14 views)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-08-2009 เมื่อ 20:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 88 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โยคียุ้ย ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา