ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 27-09-2019, 10:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ขณะเดียวกันก็ก่อทุกข์ให้กับหญิงชายที่ไปแสวงหาความดี ไปวัดไปวาด้วย เพราะว่าเขาทั้งหลายเหล่านั้น ส่วนใหญ่ยังเป็นปุถุชนผู้หนาด้วยกิเลส การกระทำของเรานั้นเป็นโทษ ถ้าผู้หญิงก็เป็นโทษต่อผู้ชาย ผู้ชายก็เป็นโทษต่อผู้หญิง เพราะว่าเขาเห็นแล้วก็จะเกิดอารมณ์ ๒ อย่าง อย่างแรกก็คือชอบใจก็เป็นราคะ อย่างที่สองถ้าไม่ชอบใจก็เป็นโทสะ เราทำให้ความชั่วเกิดขึ้นในใจของบุคคลอื่น ในเมื่อตัวเราเป็นต้นตอของความชั่ว ก็แปลว่าความชั่วนั้นเกิดขึ้นกับเราด้วย

บางท่านมาวัดก็แต่งตัวตามสบาย ผู้ชายก็นุ่งกางเกงขาสั้น บางคนก็ใส่เสื้อกล้ามมาเลย ซึ่งลักษณะอย่างนั้นควรจะอยู่ในห้องในหับ อยู่ในบ้านในช่องของตัวเอง ไม่ใช่ไปวัด ผู้หญิงบางท่านก็แต่งตัวเปิดเผยเสียเต็มที่ กลัวคนจะไม่รู้ว่าเราเป็นผู้หญิง บางท่านอุตส่าห์ไปยัดไปเสริมอะไรต่อมิอะไรมา ก็อยากจะอวดคนอื่นให้รู้ให้เห็น

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้มีแต่สร้างทุกข์สร้างโทษแก่ตัวเราและคนอื่น อาตมาเองสมัยก่อน ทำตามสบายของตัวเอง ก็คือนั่งฟังธรรมก็ขัดสมาธิ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเกือบจะขว้างด้วยกระโถน..! ซึ่งอาตมาก็สงสัย ภายหลังเมื่อฝึกมโนมยิทธิได้แล้วถึงได้รู้ว่า หลายครั้งที่พระท่านเสด็จ แต่เราก็นั่งขัดสมาธิแบบสบายใจเฉิบ ในเมื่อสามารถรู้เห็นได้ ก็ต้องรีบเปลี่ยนเป็นนั่งพับเพียบเรียบร้อย เพื่อกราบพระท่าน จนกระทั่งกลายเป็นจริตนิสัยเฉพาะตัว

ทุกวันนี้นั่งกรรมฐานไม่สามารถที่จะนั่งขัดสมาธิได้ เพราะว่าพระท่านเสด็จบ่อย เมื่อเห็นท่านก็ต้องเปลี่ยนท่ามานั่งพับเพียบแล้วกราบ ท้ายสุดก็เลยกลายเป็นเคยชินกับท่านั่งพับเพียบไปเลย เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-09-2019 เมื่อ 20:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา