ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 30-09-2019, 20:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,182 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้บางทีเป็นแค่จริยาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราคิดไม่ถึง แต่ว่าก่อให้เกิดทุกข์เกิดโทษ โดยที่เราเองไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่เรากระทำนั้น เป็นการปรามาสพระรัตนตรัย ไม่ให้ความเคารพอย่างแท้จริง ถ้าหากว่าผู้หญิงนั่งพับเพียบก็ถือว่าเป็นท่าปกติ แต่ถ้ารู้สึกว่าลำบาก ก็เปลี่ยนเป็นนั่งท่าเทพธิดาก็ได้ ถ้าสงสัยว่านั่งท่าเทพธิดาเป็นอย่างไร ? ก็นั่งทับส้นแบบที่คนญี่ปุ่นเขานั่งกัน

เรื่องพวกนี้แม้ว่าจะเป็นจริยาเล็กน้อย แต่ส่อให้เห็นว่าสภาพจิตของเราหยาบมาก ก็เลยไม่เห็นทุกข์เห็นโทษ บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเราเข้าไม่ถึงสมาธิเบื้องต้นคือปฐมฌานละเอียด เพราะว่าบุคคลที่เข้าถึงปฐมฌานละเอียดและทรงได้อย่างแท้จริงนั้น สติ สมาธิ ปัญญา จะแหลมคมและว่องไว สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จะก่อทุกข์ก่อโทษให้แก่ตัวเองและผู้อื่นจะรู้เท่าทัน และไม่กระทำในสิ่งนั้น รู้จักขัดเกลา กาย วาจา ใจ ของตนเองให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามสภาพ เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงสมกับบุคคลที่ได้รับการกล่าวชมจากผู้อื่นว่าเป็นนักปฏิบัติธรรม

ไม่ใช่ว่ากี่เดือนกี่ปีก็ยังคงความหยาบอยู่เหมือนเดิม ไม่มีการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ถ้าลักษณะอย่างนั้น เราไม่สามารถที่จะกล่าวกับผู้อื่นอย่างเต็มปากเต็มคำว่าเราเป็นผู้ปฏิบัติในศีล ในสมาธิ ในปัญญา เพราะว่า กาย วาจา ใจ ของเราหยาบมาก ยังทำให้ผู้รู้เขาตำหนิได้ ถ้าหากว่าเราจะใช้คำว่า “ช่างหัวมัน” ปล่อยวางแล้ว ลักษณะอย่างนั้นก็คือ การวางใส่กบาลคนอื่น ก่อให้เกิดทุกข์เกิดโทษแก่คนอื่นเขา และขณะเดียวกัน ตัวเราที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ เราไม่รู้ตัวของเรา ก็ส่อถึงสภาพจิตที่หยาบกระด้าง ปราศจากการขัดเกลาอย่างแท้จริง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2019 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา