ฉันข้าวเปล่า ๆ มันฉันได้มากแค่ไหน ๒ - ๓ คำมันก็อิ่มแล้ว ... ทีนี้เดินจงกรมตัวปลิวเลย นั่งภาวนานี่เป็นหัวตอ ไม่มีโงกมีง่วง มันก็บ่งให้เห็นได้ชัด ๆ ว่า เพราะอาหารนั่นเอง มันทำให้โงกให้ง่วง ... ถ้ามีกับดี ๆ ก็ฉันได้มาก ฉันได้มากก็นอนมาก ขี้เกียจมากนะซี.. โงกง่วง นั่งสัปหงกงกงันไปละ ก็เคยเป็นอยู่แล้ว รู้อยู่ ไปอยู่อย่างนั้นมันไม่นี่ ฉันอาหารอย่างที่ว่านี่นะ ... เพราะฉะนั้นจึงอดบ้าง อิ่มบ้าง อยู่ไป ขอให้ใจได้สะดวกสบาย ...
นี่ละ.. เวลาหาธรรมเป็นอย่างนั้นแหละ มีแต่ความทุกข์ ความลำบากทั้งนั้น.. หาธรรม จะได้สะดวกสบายดูจะไม่ค่อยมีละ อยู่ในป่าในเขา บางทีก็ไปอาศัยเขา ๓ - ๔ หลังคาเรือน เขาอยู่ในเขา เขาไม่มีไร่มีนาทำ เขาก็หาของป่า อะไรเอาไปแลกทางชาวบ้านเขาขึ้นมากิน เราก็ไปพักกับเขา ก็ไปอย่างว่า.. มันไม่มีอะไรแหละ องค์เดียว สององค์ไป อาศัยกินเขาบ้าง ไม่กินก็ได้นี่ ก็เราเคยมาแล้ว
อยู่ในสกลนครนี่ละมากที่สุด เราเที่ยวแหลกเลย ภูเขาลูกนี้ไปหมด ตั้งแต่สกลนครถึงกาฬสินธุ์ ปีนี้เข้าทางนี้ ปีนั้นขึ้นทางนั้น ลงทางนั้น ขึ้นไปตลอดเลย ... เรื่องการอยู่การกินนี้ ความอดอยากขาดแคลนเป็นประจำล่ะ แต่เราไม่ได้ห่วงอันนี้มากยิ่งกว่าธรรม...”
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 18:52
|