พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "ผู้หญิงอินเดียนแดงคนหนึ่ง เขาเคยถูกหมาป่าเก็บไปเลี้ยงอยู่ ๔-๕ ปี ไม่รู้ว่ามีบุญมีกรรมเนื่องอะไรกับหมาป่า หมาป่าคาบเด็กไป ไม่ได้เอาไปกินนะ..แต่เอาไปเลี้ยง จนกระทั่งเขาโตขึ้นมาได้ประมาณ ๕ ขวบ หมาป่าฝูงนั้นคงหากินครบรอบ จึงกลับมาบริเวณที่พ่อแม่ของเด็กคนนั้นตั้งแคมป์ประจำพอดี
เขาบอกว่า ทันทีที่เขาได้กลิ่น เขารู้ว่านี่คือกลิ่นมนุษย์ เหม็นเสียจนบอกไม่ถูก เหม็นอย่างน่ารังเกียจมาก ตอนหลังหมอผีไปเจอเข้า เขาก็เลยชิงตัวกลับมา กว่าจะสอนให้พูดภาษาคนได้ก็เป็นปี ๆ เพราะเขาชินกับภาษากายและภาษาใจแบบหมาไปแล้ว ถึงเวลามักจะแสดงออกแบบหมา กว่าจะแก้ไขให้กลับเป็นคนได้ก็หลายปี
ตอนหลังมีนักข่าวไปสัมภาษณ์ เขาก็สัมภาษณ์ว่าระหว่างที่อยู่กับหมาเป็นอย่างไร ? กินอะไร ? ล่าอย่างไร ? เขาก็บอกว่าตามฝูงไปออกล่าเหมือนกัน หมาเขาจะมีการแบ่งหน้าที่ตามลำดับอาวุโส ตัวไหนอาวุโสที่สุดก็จะเป็นตัวนำ ต่อให้อายุเท่ากันแต่ถ้าสู้เขาไม่ได้ ก็จะถูกเรียงลำดับให้อาวุโสต่ำกว่าเขา
เพราะฉะนั้น..ใครที่เลี้ยงหมาแล้วหมากัดกัน อย่าไปห้าม.. ปล่อยให้กัดกันจนรู้แพ้รู้ชนะไปเลยทีเดียว แล้วเขาจะเลิกเอง เพราะว่าพอรู้แพ้รู้ชนะเขาก็จะจัดอาวุโสกันได้แล้ว ตัวแพ้ก็จะยอมรับตัวชนะ แต่ถ้าเราไปห้ามทุกครั้ง เขายังจัดลำดับกันไม่ได้ก็จะกัดกันไม่เลิก
เราคิดว่าเราเมตตา แต่ความจริงไปทำให้เขากัดกันไม่เลิก ฉะนั้น..อย่าไปยุ่งกับอนาคตของหมา ปล่อยให้กัดกันให้พอ พอแพ้ชนะกันไปแล้วเขาจะเลิกกันไปเอง
แต่เสียดาย..พวกสัตว์เขาคิดแบบคนไม่เป็น คือตอนเล็ก ๆ เราเคยตีเขา แล้วเหมือนกับว่าเขาแพ้ พอโตขึ้นเขาก็ยังรู้สึกว่าเราชนะมาตลอด เขาไม่ได้นึกว่าตัวเขาใหญ่ขึ้น สามารถที่จะสู้เราได้แล้ว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2011 เมื่อ 03:59
|