เทศน์วันมาฆบูชา วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๕
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง กุสะลัสสูปะสัมปะทา สะจิตตะปะริโยทะปะนัง เอตัง พุทธานะสาสะนัง ติ
ณ บัดนี้อาตมภาพรับหน้าที่วิสัชนาในโอวาทปาฏิโมกข์คาถา เพื่อเป็นเครื่องประดับสติปัญญาบารมี และสร้างเสริมกุศลบุญราศีของญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย ที่พร้อมใจกันมาบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันมาฆบูชา ณ วัดท่าขนุนแห่งนี้
ญาติโยมทั้งหลายในปี ๒๕๕๕ นี้ จัดว่าเป็นปีมหามงคลใหญ่อีกปีหนึ่ง ก็คือว่าเป็นปีครบ ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานั้น เสด็จออกบรรพชาเมื่อพระชนมายุ ๒๙ พรรษา ทรงแสวงหาธรรมะอยู่ ๖ ปีเต็ม ๆ ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ เมื่อพระชมน์มายุ ได้ ๓๕ พรรษา
หลังจากนั้น..พระองค์ท่านก็ได้เสด็จออกสั่งสอนสรรพสัตว์ทั้งหลาย เพื่อให้ได้รับประโยชน์ในธรรมะที่พระองค์ท่านตรัสรู้อยู่ ๔๕ ปีเต็ม ๆ แล้วจึงเสด็จดับขันธปรินิพพานที่สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา หลังจากนั้นเป็นต้นมา เราก็ได้นับเป็นพุทธศักราชที่ ๑ ก็คือ พ.ศ.ที่ ๑ หลังจากการปรินิพพานของพระองค์ท่านแล้ว บัดนี้ล่วงมา ๒,๕๕๕ ปี บวกกับการตรัสรู้แล้วเสด็จออกประกาศพระศาสนา อีก ๔๕ ปี จึงเป็นปีที่ครบ ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทั้งทางราชการและทางคณะสงฆ์ ได้กำหนดให้ปีนี้เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลอง ๒,๖๐๐ ปี การตรัสรู้ เรียกว่างานเฉลิมฉลองพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปีการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้น..การประกอบกองบุญการกุศลใด ๆ ก็ตามภายในปีนี้ ถือว่าเรามีส่วนในการร่วมฉลอง ๒,๖๐๐ ปีแห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราไปด้วย
เมื่อองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว หลังจากเสวยวิมุตติสุขอยู่ ๔๙ วัน พระองค์ท่านก็เสด็จไปยังป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณสี เพื่อแสดงธรรมโปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ เมื่อปัญจวัคคีย์มีดวงตาเห็นธรรมแล้ว บวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ให้แยกย้ายกันไป เพื่อประกาศศาสนาในที่ต่าง ๆ พระองค์ท่านก็เสด็จไปยังแคว้นมคธของพระเจ้าพิมพิสาร เพื่อที่จะโปรดองค์พระราชา ซึ่งได้มีปฏิญาณสัญญาต่อกันเอาไว้ว่า เมื่อพระองค์ท่านตรัสรู้แล้วจะกลับมาโปรด และสามารถสงเคราะห์ให้พระเจ้าพิมพิสาร พร้อมด้วยบริวารอีก ๑๑๐,๐๐๐ คน เข้าถึงความเป็นพระโสดาบัน ส่วนอีก ๑๐,๐๐๐ คนเข้าถึงพระรัตนตรัย ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นอย่างมาก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2012 เมื่อ 02:49
|