ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 10-05-2012, 07:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,899 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การที่เราจะตัดราคะคือความผูกพันอยู่ในรูปสวย เสียงไพเราะ กลิ่นหอม รสอร่อย และสัมผัสระหว่างเพศนั้น พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนเอาไว้ว่า ราคะนั้นเราจะตัดด้วยกองกรรมฐานหลายกองด้วยกัน ได้แก่ กายคตานุสติ การที่เราระลึกถึงความเป็นจริงของร่างกายนี้ ว่าไม่ได้สวยงามอย่างแท้จริง เป็นเพียงผิวหนังหลอกตาอยู่ชั้นหนึ่งเท่านั้น

แค่ใต้หนังของเราลงไปก็ประกอบไปด้วยเลือด ประกอบไปด้วยน้ำเหลือง ประกอบไปด้วยไขมัน มีเส้นเอ็น มีกระดูก ถ้าหากว่ายกมาเป็นส่วน ๆ เราเห็นก็เกิดความรังเกียจมาก แม้กระทั่งเลือดของเราเองที่ออกมาจากร่างกาย เราก็ต้องรีบเช็ดรีบล้าง เพราะว่าเรารังเกียจ

ดังนั้น..ไม่ตัวเราหรือว่าตัวของคนอื่น ก็ประกอบไปด้วยอวัยวะภายใน ภายนอก ใหญ่น้อยทั้งปวง มีสภาพน่าเกลียดเป็นปกติ แต่เอาหนังชั้นหนึ่งมาห่อมาหุ้มลงไป เราก็ไปหลงติดอยู่แค่เปลือกด้านนอก แล้วเข้าใจว่าสวยงาม เป็นต้น เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ต้องใช้ปัญญาเข้ามาช่วย จึงจะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

ลำดับต่อไป ท่านให้ใช้อสุภกรรมฐาน คือการพิจารณาซากศพที่ตายไปแล้ว วันหนึ่งบ้าง สองวันบ้าง สามวันบ้าง เจ็ดวันบ้าง หรือว่าซากศพทั้งหลายที่โดนหั่น โดนสับ โดนฟัน เป็นชิ้น เป็นท่อน หรือว่าซากศพที่กำลังมีหมู่หนอน มีสัตว์ทั้งหลายกัดกินอยู่ เป็นต้น เราก็จะเห็นว่าสภาพร่างกายนี้ เต็มไปด้วยความโสโครก เน่าเหม็นเป็นปกติ ในเมื่อเราเห็นความเป็นจริง ก็จะเกิดความเบื่อหน่าย ทั้งในร่างกายนี้และร่างกายคนอื่น จิตก็จะถอนออกมา จากความยินดีในกามราคะโดยปริยาย

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ไม่มีป่าช้าผีดิบเหมือนสมัยเก่า ๆ นั้น ท่านทั้งหลายก็สามารถเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ ก็คือตามท้องตลาดที่มีเขียงขายหมู ขายเนื้ออยู่ สิ่งที่เขาสับ เขาฟัน หั่นเป็นชิ้นเป็นท่อนนั้น ลักษณะก็เหมือนเช่นเดียวกับร่างกายของเรานี้เอง เพียงแต่ว่านั่นเป็นร่างกายของสัตว์เดรัจฉาน ที่ประกอบไปด้วยเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง มีอวัยวะภายใน ภายนอกที่น่าเกลียด เราก็มานึกเปรียบเทียบกับสภาพร่างกายของเราว่า ความจริงก็เป็นเช่นนั้น ร่างกายของคนอื่นที่เรารักใคร่ยินดีก็เป็นเช่นนั้น

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เป็นเพียงสภาพหลอกตาอยู่เบื้องนอก ทำให้เราทั้งหลายไปหลงยึดติดอยู่ และท้ายที่สุดก็ไปยึดว่าตัวกูของกู คนทุกอย่างรอบข้างก็ต้องเป็นของกูไปด้วย การที่เรายึดติดเช่นนี้ สภาพจิตของเราก็มัวหมอง ไม่แจ่มใส แต่ถ้าหากว่าเราพิจารณาบ่อย ๆ สามารถที่จะละ จะวางได้ เราทั้งหลายก็จะชำระจิตใจของตน ให้ผ่องใสจากราคะ ซึ่งเป็นอกุศลมูลใหญ่ตัวนี้ลงได้อีกส่วนหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2012 เมื่อ 07:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 54 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา