ความสุขในปัจจุบันของเราก็คือ เราเป็นบุคคลที่มีโลภะ โทสะ โมหะเบาบางลง ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดเราก็เป็นผู้ที่มีความสุข มีความเยือกเย็นใจ บุคคลรอบข้างที่อาศัยอยู่ใกล้เรา ก็พลอยได้รับความสุขความเยือกเย็นไปด้วย นี่คือประโยชน์สุขในปัจจุบัน
ส่วนประโยชน์สุขในอนาคตก็คือ หากว่าเราหมดอายุขัยตายลงไป สิ่งทั้งหลายที่เรากระทำมานั้น ก็ส่งผลให้เราไปเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า หรือเป็นพรหมได้ เพราะว่าใจของเราเกาะความดีเป็นปกติ เมื่อถึงเวลาก็ย่อมก้าวเข้าไปสู่สุคติตามที่เราหวังได้
ส่วนประโยชน์สุขสูงสุดนั้น สำหรับคนที่ประกอบไปด้วยศีล สมาธิ และปัญญาเป็นอย่างมาก คือสามารถรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ล่วงศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำ และไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล เป็นต้น เป็นผู้ที่สามารถสร้างเสริมสมาธิของตนเอง ให้ทรงฌานระดับใดระดับหนึ่งได้ มีฌานที่ ๑ - ๒ - ๓ - ๔ เป็นต้น
และเป็นผู้ที่มีปัญญาเห็นว่า สภาพร่างกายนี้หาความดีไม่ได้ โลกเรานี้หาความดีไม่ได้ หมดอยากที่จะเกิดมาทนกับความทุกข์ยากลำบากเช่นนี้ต่อไปอีก เขาทั้งหลายเหล่านั้นก็จะก้าวล่วงเข้าสู่กระแสพระนิพพาน ได้รับประโยชน์สูงสุดตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประกาศอุดมการณ์ไว้ในวันมาฆบูชานั่นเอง
ญาติโยมทั้งหลายที่มาทำบุญวัดท่าขนุนเนื่องในวันมาฆบูชานี้ นอกจากท่านทั้งหลายจะได้ถวายทานแล้ว ท่านทั้งหลายยังได้กระทำในสิ่งที่เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา คือ การที่ทางวัดนั้นได้จัดนำเอาพระพุทธรูป รอยพระพุทธบาท และรูปหล่อหลวงปู่พุก หลวงปู่สาย เพื่อให้พวกเราได้ทำการปิดทองถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชาส่วนหนึ่ง และภายในคืนนี้ยังมีการเวียนเทียนและตามประทีปเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชาอีกด้วย ส่วนในช่วงบ่ายนั้น เราจะมีการบวชพระภิกษุสงฆ์ เพื่อเข้ามาปฏิบัติธรรมเนื่องในสัปดาห์วันมาฆบูชา เป็นจำนวน ๙ รูปด้วยกัน เราก็ได้สร้างบุญใหญ่อีกส่วนหนึ่ง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-05-2012 เมื่อ 16:03
|