เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้าให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออกให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ตามที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๐ สิ่งที่อยากจะบอกพวกเราในวันนี้ คือ ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น เป็นการที่เราต่อต้านกับอำนาจของกิเลส การที่เราตกเป็นทาสของกิเลสมาชาติแล้วชาติเล่าจนนับชาติไม่ถ้วน ต่อสู้กับกิเลสเมื่อไรเราก็พ่ายแพ้ แต่ถ้าเราท้อถอยไม่คิดที่จะต่อสู้ดิ้นรนอีก ก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง
เพราะว่าการที่เราได้เกิดเป็นมนุษย์ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังธรรมแล้วน้อมนำมาปฏิบัตินั้น แปลว่าศักยภาพของเราเพียงพอที่จะต่อสู้กับกิเลสได้ แต่การที่พวกเราสู้กับกิเลสเมื่อไรก็แพ้ ทำให้บางคนหมดกำลังใจ จึงอยากจะให้เปลี่ยนมุมมองเสียใหม่ว่า
จริง ๆ แล้วเรื่องของกิเลสคือ รัก โลภ โกรธ หลง นั้นมีประโยชน์มาก ไม่ว่าจะอำนาจรัก โลภ โกรธ หลง ที่ชักจูงเรามาชาติแล้วชาติเล่า ทำให้เราต้องพ่ายแพ้นับครั้งไม่ถ้วนนั้น ความจริงแล้วเป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้เราเห็นอย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าจะเกิดมากี่ชาติก็ตาม เราก็โดนกิเลสครอบงำเช่นนี้ ชักจูงเช่นนี้ ทำร้ายและทำลายความดีของเราเช่นนี้ เมื่อเป็นอย่างนี้เราควรที่จะเบื่อหน่ายได้หรือยัง ? เพราะไม่ว่าจะเกิดกี่ชาติก็ตาม เราก็ตกอยู่ใต้อำนาจกิเลสอยู่ร่ำไป ตกอยู่ในกองทุกข์อยู่ร่ำไป
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
|