พระอาจารย์กล่าวถึงการจัดงานสวดสะเดาะเคราะห์ว่า "สมัยอยู่วัดท่าซุง หลวงพ่อจะให้จัดงานสวดสะเดาะเคราะห์ช่วงสงกรานต์ เพราะงานสงกรานต์มีการบังสุกุลอัฐิให้แก่บรรดาญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว กลายเป็นธรรมเนียมการจัดสะเดาะเคราะห์ของสายวัดท่าซุงสืบกันมา
การจัดสะเดาะเคราะห์โดยการจัดงานศพนั้น รายแรกที่ทำเลย คือ หลวงพ่อพระครูโวทานธรรมาจารย์ วัดดาวดึงสาราม หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า หลวงพ่อพระครูโวฯ ท่านจัดงานศพตัวเอง มีเทศน์ ๕๐๐ ธรรมาสน์ ว่ากันคนละประโยคเดียวก็หมดไปเป็นวันแล้ว แล้วท่านก็ถวายปัจจัยไทยธรรมให้พระที่มาเทศน์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็พระลูกศิษย์ท่านทั้งนั้น
มีคนถามว่า "ทำไมหลวงพ่อต้องจัดงานศพตัวเองด้วย ?" ท่านบอกว่า "ถ้าข้าตายแล้วไม่ได้เห็น เพราะฉะนั้นต้องจัดตอนเป็น ๆ จะได้รู้ว่าพวกเอ็งทำอะไรให้ข้าบ้าง" บรรดาลูกศิษย์ที่มาช่วยงานก็เป็นนักเทศน์ชั้นยอดกันทั้งนั้น ถวายปัจจัยคนละ ๑๐๐ บาท ผ้าไตรคนละผืน ลองนึกดูว่า สมัยนั้นก๋วยเตี๋ยว ๒ ชาม ๕ สตางค์ เงิน ๑๐๐ บาท ใหญ่มหึมาขนาดไหน สมัยนั้นธนบัตรที่ใหญ่ที่สุดคือใบละร้อย นี่ไม่นับตอนญี่ปุ่นขึ้นนะ ตอนญี่ปุ่นขึ้นนี่พิมพ์ใบละพันเลย เป็นการพิมพ์เปล่า ๆ รับรองโดยกองทัพลูกพระอาทิตย์"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-05-2015 เมื่อ 15:36
|