"ทำอย่างไรที่เราจะสร้างจิตสำนึกให้คนรู้จักละอายชั่วกลัวบาป รู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม หน้าที่ใหญ่นี้ให้เริ่มในครอบครัวของเรา คนเป็นพ่อแม่ ภาษาบาลีเรียกว่า บุรพาจารย์ แปลว่า อาจารย์คนแรก จำเป็นจะต้องสั่งสอนลูกหลานเราเอง เพื่อสร้างจิตสำนึกนี้ให้เกิดขึ้นให้ได้
ลำดับต่อไป ก็คือ ครูบาอาจารย์ ใครเป็นครูบาอาจารย์อยู่กับโรงเรียน คนเขาจะตำหนิว่าเป็นไดโนเสาร์เต่าล้านปีขนาดไหนก็ตาม ขอให้ช่วยกันปากเปียกปากแฉะ จ้ำจี้จ้ำไช ช่วยกันสร้างจิตสำนึกของการเสียสละเพื่อส่วนรวม ให้เกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ของเราให้ได้
ลำดับต่อไป พระภิกษุสงฆ์ เด็กจะอยู่ใกล้พ่อแม่กับครูบาอาจารย์ก่อนแล้วจึงใกล้พระ เมื่อถึงวาระนั้น ถ้าหากว่าทุกภาคส่วนทำหน้าที่โดยพร้อมเพรียงกัน เราก็จะสามารถสร้างประชากรที่มีคุณค่าขึ้นมาได้
ท่านอื่นที่ทำงานอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเอกชนหรือข้าราชการก็ตาม ก็ต้องพยายามที่จะใช้จิตสำนึกตรงส่วนนี้ว่า การเสียสละเพื่อส่วนรวมเป็นอย่างไร ทำอย่างไรที่เราจะไปถึงที่ทำงานก่อนเวลาและเลิกหลังเวลา ไม่ใช่ไปถึงหลังเวลาจนกระทั่งเขาขีดเส้นแดงไว้แล้ว แต่..ให้ "ช่วยเว้นช่องไว้ให้เซ็นด้วยนะ" จะมีอย่างนี้เยอะมาก
อาตมาเองสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นอาจารย์คนเดียวที่ไปนั่งรอลูกศิษย์ ยังไม่เคยมีลูกศิษย์คนไหนที่ไปถึงห้องเรียนก่อนอาตมา ทำอย่างไรที่เราจะทำอย่างนี้ให้ได้ อาตมาเองเดินทางไกลที่สุดในบรรดาอาจารย์และลูกศิษย์ทั้งหมด แต่ไปถึงห้องเรียนก่อน ไปนั่งรอก่อนเวลาสอนทุกครั้ง
แรก ๆ พวกลูกศิษย์เขาไม่ค่อยจะมาเรียนกัน จนกระทั่งมีอาจารย์อย่างอาตมาทำตัวเป็นตัวอย่าง ท้ายสุดเขาก็มากันเกือบจะเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกครั้ง ถ้าไม่ใช่ป่วยหนักหรือติดธุระการงานสำคัญที่จริง ๆ จะไม่มีใครขาดเรียน เพราะเขาเห็นแล้วว่า อาจารย์อย่างเราเป็นตัวอย่างที่ดี ที่เขาควรจะเอาเป็นแบบอย่างได้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 23-01-2011 เมื่อ 13:26
|