ดูแบบคำตอบเดียว
  #18  
เก่า 29-08-2013, 20:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,603
ได้ให้อนุโมทนา: 151,769
ได้รับอนุโมทนา 4,412,323 ครั้ง ใน 34,193 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในเรื่องของพระพุทธศาสนา ถ้านั่งรออยู่ในวัดอย่างเดียวไปไม่รอดหรอก เจ๊งแน่นอน ก็เลยต้องใช้วิธีเดินออกจากวัดไป ในเมื่อโรงเรียนเทศบาลเขาขาดครูที่ชำนาญการเฉพาะ แล้ววัดท่าขนุนมี ก็ส่งไปเลย คราวนี้อาตมาเป็นกรรมการการศึกษาอยู่แล้ว และนายกเทศมนตรีซึ่งจะเป็นคนอนุมัติเงินเดือนตำแหน่ง ก็เป็นลูกศิษย์วัดอยู่แล้ว ก็งานง่ายเลย ถึงเวลาก็..ช่วยจัดการให้หน่อย.. เอาพระเอาชีไปสอนได้

เสียดายพระในวัดจบเมืองนอกกันมา พอให้เรียนปริญญาเอกต่อก็ไม่เรียน บอกว่าที่มาบวชเพราะเบื่อเรียน ถ้าอย่างนั้นช่วยไปสอนเด็กก็แล้วกัน

ถ้าเราวางพื้นฐานแนวทางให้เด็ก ๆ เอาไว้ เด็กก็จะคุ้นชินกับพระกับวัด ไม่ใช่ถึงเวลาเข้าวัดแล้วเขิน ทำอะไรไม่ถูก อาตมาบอกกับพระและแม่ชีว่า ให้เขาท่องคำอาราธนาศีล อาราธนาธรรม อาราธนาพระปริตร แบบท่องสูตรคูณเลย ให้ท่องทุกเย็นก่อนเลิกเรียน ท่องให้ฝังหัวไปเลย ไปอยู่ที่ไหนจะได้เป็นงาน นี่เป็นนโยบายเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ไม่ใช่นโยบายของโรงเรียน

พอถึงเวลาแล้วตัวเองเป็นพุทธศาสนิกชน เข้าวัดกันไปเป็นร้อยแต่ไม่มีใครอาราธนาศีลเป็นก็แย่ ต่อไปก็ให้เด็ก ๆ รุ่นนี้แหละ อยู่ ป.๓ - ป.๕ ถึงเวลาให้นำปู่ย่าตายายให้ได้อายเสียบ้าง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-08-2013 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา