สำหรับเทศกาลเข้าพรรษานั้น เมื่อมาถึงประเทศไทยของเรา ก็เป็นเทศกาลสำคัญอย่างหนึ่ง กลายเป็นประเพณีที่บรรดาพุทธศาสนิกชนต่าง ๆ จะได้ร่วมบำเพ็ญกุศลเนื่องในวาระเข้าพรรษา ที่สำคัญ ๆ นอกเหนือจากการทำบุญใส่บาตร ฟังเทศน์ฟังธรรมแล้ว ก็มีการหล่อเทียนพรรษา เพื่อนำไปถวายให้พระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาได้ใช้ เพื่อการศึกษาร่ำเรียนพระธรรมวินัยในยามค่ำคืน
ในสมัยนี้แม้ว่าจะมีการใช้ไฟฟ้าก็ตาม เราก็ยังนิยมถวายเทียนพรรษากันเป็นปกติ เพราะถือว่าเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลโน้น และในปัจจุบันนี้ ประเพณีการถวายเทียนพรรษาหลายแห่ง ก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ อย่างเช่น จังหวัดอุบลราชธานี มีประเพณีการแห่เทียนพรรษา มีการประกวดประขันกันในเรื่องของการหล่อเทียนพรรษาก็ดี แกะสลักเทียนพรรษาก็ดี ว่าใครจะมีฝีมือในการกระทำสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นพุทธบูชาได้ดีกว่ากัน เป็นการสร้างประเพณีที่ดีงามขึ้นมา และกลายเป็นแหล่งเงินแหล่งทองในจังหวัดของตน เป็นต้น
สำหรับอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญก็คือ การถวายผ้าอาบน้ำฝนไว้ในบวรพุทธศาสนา เนื่องจากว่าพระภิกษุของเรา พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ใช้ผ้าแค่ ๓ ผืน ก็คือ สบง ผ้านุ่ง ๑ จีวร ผ้าห่ม ๑ และสังฆาฏิ ผ้าซ้อนห่มสำหรับหน้าหนาว ๑ ถ้าหากว่าไม่ใช่หน้าหนาว ไม่ได้ใช้ซ้อนห่ม ก็มักจะพาดบ่าเอาไว้ เพื่อให้ครบไตรจีวร การที่จะใช้ผ้าเกินไปกว่านี้ ก็ต้องให้มีพระบรมพุทธานุญาตเสียก่อน และองค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ประทานพุทธานุญาตให้พระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนาใช้ผ้าอาบน้ำฝนได้ โดยเหตุปรารภของนางวิสาขามหาอุบาสิกา
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-09-2015 เมื่อ 14:51
|