ถามว่ากิเลสหมดไปเลยใช่ไหม ? ก็ต้องตอบว่าความจริงแล้วกิเลสมีอยู่เท่าเดิม เพียงแต่เราไม่ไปสร้างสาเหตุให้กิเลสนั้นกำเริบขึ้นมาได้ เหมือนกับว่าเชื้อเพลิงมีอยู่เต็มที่ แต่ว่าเราสละทิ้งซึ่งไม้ขีดหรือว่าเปลวไฟที่จะไปจ่อเชื้อเพลิงทั้งหลายเหล่านั้น ในเมื่อเราไม่สร้างสาเหตุอย่างนั้น ไฟก็ไม่สามารถที่จะลุกไหม้เผาผลาญเราได้
ถ้าทุกคนสามารถทำเช่นนี้ได้ เราก็จะเป็นผู้เบากาย เบาใจ มีความสุขในการปฏิบัติ สามารถกระทำได้ไม่เบื่อ ไม่หน่าย ถ้าเรากระทำมาถึงตรงจุดนี้ ขึ้นชื่อว่าโอกาสที่จะหลุดพ้นจากกองทุกข์ ก็จะมีแก่เราอย่างเต็มที่ เมื่อถึงเวลานั้นเราก็ใช้ปัญญาประคับประคองการปฏิบัติของเรา ให้ตรงตามที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสสอนเอาไว้ ก็มีโอกาสที่จะก้าวล่วงจากกองทุกข์ เข้าสู่พระนิพพานได้ดังที่ปรารถนาไว้
ลำดับต่อไป ขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาหรือกำหนดพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้าอ่อน)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2013 เมื่อ 03:13
|