ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : จริง ๆ แล้วไม่ควรเปลี่ยนสาย ถ้าเราเคยปฏิบัติมา ชินอย่างไรให้ทำอย่างนั้น แล้วจะได้เร็ว อาตมาเคยเปรียบว่าเหมือนกับการขุดบ่อน้ำ เราขุดไปตั้งสองสามวา เขาบอกตรงนั้นดีกว่า เราก็ย้ายไปขุดตรงนั้น เขาบอกตรงนี้ดีกว่า ก็ย้ายไปขุดตรงนี้ แล้วเมื่อไรจะถึงน้ำเสียที ? เพราะฉะนั้น..อย่าเปลี่ยนบ่อย ถนัดแบบไหนทำแบบนั้นอย่างเดียว
การรู้เห็นเป็นแค่ของแถมของการปฏิบัติ ต่อให้เป็นพองหนอยุบหนอก็เถอะ พอเราทำไปเรื่อย ๆ จิตสงบได้ที่ก็จะเห็นเอง แต่สายยุบหนอพองหนอ เขาให้ตัดทิ้งหมด รู้หนอ ๆ เห็นหนอ ๆ เท่านั้น
การรู้เห็นเป็นของเพียงแถม ถ้าทำถึงอย่างไรก็มาแน่
ถาม : มีครั้งหนึ่งโยมไปวัด เรากำหนดว่ารู้หนอ ๆ ได้ยินผู้หญิงคนหนึ่งเขาพูด พอเช้าขึ้นมาคุยกับเขา เขาบอกว่าพี่จะได้ยินได้อย่างไร หนูนึกอยู่ในใจไม่ได้พูด แต่เราได้ยินเป็นคำพูด
ตอบ : ในเรื่องของเจโตปริยญาณ เขาคิดอะไรก็ตามเราสามารถบอกได้ทุกคำเลย แต่จริง ๆ แล้วเขาเอาไว้ดูใจตัวเอง แบบเดียวกับสายพองยุบ ที่ตอนนี้สภาวธรรมอะไรที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ให้ตามรู้ใจของตนเอง
รู้ใจของคนอื่นก็แค่พูดให้เขาตื่นเต้นเท่านั้น ที่สำคัญก็คือ ตอนนี้กิเลสอะไรเกิดขึ้น นิวรณ์อะไรเกิดขึ้น ให้เรารู้เท่าทันให้ได้
ถาม : ........... ภาวนาก็มีความสุขดี
ตอบ : การปฏิบัติหลายคนข้ามขั้นไปเลย ไม่ต้องไปนับหนึ่งก็ได้ โยมทำอย่างนั้นก็ใช้ได้แล้ว เพียงแต่ว่าเราจับที่ศูนย์กลางกาย ให้ดิ่งลงตรงกลางไปเรื่อย ๆ พอจิตสงบถึงที่สุดแล้วก็จะเห็นภาพพระเอง พอภาพพระปรากฏขึ้นคราวนี้อยากไปที่ไหนก็บอกท่าน ให้ท่านพาไป
เรื่องของการปฏิบัติท้ายสุดจะลงที่เดียวกันหมด เหมือนกับเรามุ่งตรงมาที่นี่ จะมาจากกี่ที่กี่ทางก็ตาม ท้ายสุดจะมาถึงบ้านหลังนี้ เพราะฉะนั้น..เรื่องการปฏิบัติสำคัญที่สุด คือ ทำอย่างไรให้ใจสงบ พอสงบแล้วปัญญาเกิด รู้เท่าทันสภาวธรรมในปัจจุบัน แล้วปล่อยวางให้ได้
ไม่ต้องไปเสียเวลาทำอะไรมากมาย อายุมากแล้วเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้เด็ก ๆ ก็พอ นึกถึงภาพพระไว้ คิดว่าเราตายเมื่อไรขอไปอยู่กับท่าน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2019 เมื่อ 04:07
|