ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 07-02-2012, 08:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,803 ครั้ง ใน 34,093 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในบุญกุศลส่วนต่อไปที่เราจะพึงได้ ก็คือ เราจะมีการสรงน้ำพระพุทธรูป สรงน้ำรูปหล่อหลวงปู่พุก หลวงปู่สาย ตลอดจนกระทั่งสรงน้ำพระภิกษุสามเณร นั่นคือการที่เราได้ถวายของหอมเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชานั่นเอง

ของหอมนั้นเป็นหนึ่งในวัตถุทาน ๑๐ อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า เป็นของที่ควรแก่การถวายสงฆ์ พระองค์ท่านได้ตรัสไว้เป็นภาษาบาลีว่า อนฺนํ ปานํ วตฺถํ ยานํ มาลา คนฺธํ วิเลปนํ เสยฺยาวสถํ ปทีเปยฺยํ ทานตฺถู อิเม ทส

อนฺนํ คือข้าว ปานํ คือน้ำ ตฺถํ คือผ้า ได้แก่ ผ้าบังสุกุล ผ้าไตรจีวร ยานํ คือยานพาหนะ มาลา คือดอกไม้ คนฺธํ คือของหอม ได้แก่ ธูปในส่วนหนึ่ง เพราะว่าเวลาจุดธูปแล้วส่งกลิ่นหอม วิเลปนํ คือเครื่องลูบไล้ ถ้าหากว่าในสมัยก่อนนั้นจะเป็นน้ำมันสำหรับทาเท้า เนื่องจากพระท่านเดินทางไกลแล้วเดินด้วยเท้าเปล่า ทำให้เท้าแตกได้ง่าย เมื่อล้างเท้าสะอาดแล้วพระสมัยก่อนท่านจะทาเท้าด้วยน้ำมัน เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าแตก ถ้าเป็นสมัยนี้เป็นพวกครีมที่ป้องกันเท้าแตกก็ใช้ได้

เสยฺยา ก็คือเครื่องนอน วสถํ คือเครื่องนั่ง ได้แก่ เตียง ตั่ง โต๊ะ เก้าอี้ เป็นต้น ทีเปยฺยํ คือเครื่องตามประทีป โคมไฟ สมัยนี้ก็ได้แก่พวกหลอดไฟต่าง ๆ หรือกระทั่งเทียนพรรษา เป็นต้น ท่านบอกว่า ทานตฺถู อิเม ทส ทั้ง ๑๐ อย่างนี้ถือว่าเป็นวัตถุทาน

การที่ญาติโยมทั้งหลายสรงน้ำพระ คือเราเอาน้ำที่ประกอบไปด้วยเครื่องหอมบ้าง ดอกไม้บ้าง มาถวายเป็นพุทธบูชา ก็แปลว่าเราเป็นผู้ที่ถวายของหอมเอาไว้ในพระพุทธศาสนา ซึ่งมีผู้กล่าวถึงอานิสงส์ว่า ถ้าเกิดชาติใหม่จะมีชื่อเสียงเลื่องลือฟุ้งกระจายไปในทางที่ดี ก็แปลว่าญาติโยมที่ทำเช่นนั้น ได้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว

นอกจากจะทำในทาน ในศีล ในภาวนาแล้ว วันนี้ท่านทั้งหลายซึ่งเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ยังจะได้ปฏิบัติภาวนา และได้กระทำบุญกุศลในส่วนพิเศษอีก อย่างเช่นการถวายพระเจดีย์ทรายไว้ในพระพุทธศาสนา หรือว่าการสรงน้ำพระก็ดี ล้วนแล้วแต่ทำให้ท่านทั้งหลายได้เพิ่มกุศลบุญราศีต่าง ๆ ให้แก่ตัวเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2012 เมื่อ 03:33
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา