ถาม : วัดท่าขนุนอยู่ในส่วนที่ทัพไทยไปรบพม่าที่ท่าดินแดง ?
ตอบ : เป็นที่ตั้งค่ายเลย เป็นที่ตั้งค่ายของรัชกาลที่ ๑ กับสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ยังเป็นที่ตั้งค่ายเชลยศึกที่ทหารญี่ปุ่นคุมมาสร้างทางรถไฟสายมรณะ พูดง่าย ๆ ว่าท่าขนุนเป็นที่สำคัญสุด ๆ
ท่านเจ้าคุณพระราชสารสุธี เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ฝ่ายธรรมยุติ ท่านปรารภว่า "ทำไมอาจารย์เล็กไม่เลื่อนพระใหญ่ไปข้างหลังสัก ๑๐ - ๒๐ เมตร ให้พระใหญ่อยู่ข้างหลัง แล้วพระชำระหนี้สงฆ์อยู่ด้านหน้า ๒ ข้างนี่จะเด่นมาก ๆ เลย" อาตมากราบเรียนท่านว่า "ผมก็อยากจะเลื่อนไปข้างหลังครับ แต่จะไปทับทางรถไฟสายมรณะเสียหมด ผมต้องการที่จะเปิดทางรถไฟสายมรณะตรงนั้นเป็นแหล่งเที่ยว ถึงเวลาก็ซื้อรางรถไฟเก่า ๆ กับตู้มาตั้งไว้สัก ๒ ตู้ก็ยังดี ให้คนเขาได้มาเห็นกัน"
ด้านหน้าอาตมาถมทางรถไฟไปแล้ว ๔๐ - ๕๐ เมตร ถ้าเลื่อนพระใหญ่ถอยไปอีกก็หายไปเป็น ๑๐๐ เมตร ตอนนี้ทางรถไฟสายมรณะช่วงบนก็เหลืออยู่แค่ตรงวัดท่าขนุนเท่านั้นแหละ เพราะว่าที่อื่นเขาไถทิ้งเพื่อทำไร่ไปหมดแล้ว
ถาม : ตรงที่ป่าช้าหรือครับ ?
ตอบ : ก่อนป่าช้าตัดข้ามถนนมา เฉียง ๆ อยู่ด้านหลังสมเด็จองค์ใหญ่ แล้วก็วิ่งเฉียดเขาวัดท่าขนุนไป แต่ด้านที่เฉียดภูเขาโดนเขาไถทิ้ง กลายเป็นไร่ยางพาราไปแล้ว เหลือแต่ส่วนที่อยู่ในดงไผ่ของวัดท่าขนุน
อาตมาตั้งใจว่าจะบูรณะขึ้นมา เพราะว่าปีนี้ดินฟ้าอากาศอำนวย ป่าไผ่วัดท่าขนุนตกขุยหมดเลย แปลว่าจะตายเกลี้ยงยกป่า อาตมาสามารถรื้อเอาทางรถไฟออกมาได้ โดยที่ชาวบ้านไม่ด่า ไม่อย่างนั้นอยู่ ๆ ไปฟันป่าทิ้งเดี๋ยวเป็นเรื่อง เวลารื้อออกมาเสร็จสรรพเรียบร้อย ตอนปรับแต่งคงต้องฝังท่อบางช่วงเพื่อให้น้ำไหลผ่านได้ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวน้ำจะขังเป็นแอ่ง
พอฝังท่อเสร็จก็ต้องไปหาซื้อเหล็กรางรถไฟเก่า ๆ กับไม้หมอน จ้างเขาประกอบ ซื้อตู้รถไฟเก่า ๆ มาตั้ง ให้นักท่องเที่ยวไปตั้งท่าถ่ายรูปกัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2013 เมื่อ 02:34
|