ดูแบบคำตอบเดียว
  #14  
เก่า 10-07-2016, 13:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อมีโอกาสได้ทำสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เพื่อครูบาอาจารย์ที่ตนเองเคารพนับถือ ก็ขอความร่วมมือจากพวกท่านในการที่บวชถวายกุศลด้วย ฉะนั้น...สิ่งที่เราทุกคนได้บวชกัน นอกจากถวายกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว วันนั้นที่ผมนำให้ก็บอกว่าถวายกุศลให้กับหลวงพ่อวัดท่าซุงของเราด้วย ตอนที่เราบวชถวายหลวงปู่สายนั้น ๑๑๗ รูป แต่บวชถวายหลวงพ่อวัดท่าซุงผมเอาร้อยเดียวถ้วน ๆ เพราะไม่มั่นใจว่าจะบวชหมดภายในวันเดียวหรือเปล่า ขนาดนั้นพระเก่ายังบ่นกันว่านั่งจนหัวเข่าจะหลุด ตั้งแต่ ๖ โมงเช้านั่งยัน ๔ โมงเย็น

ในส่วนนี้จุดที่ต้องการ ก็คือ เลี้ยงพระเพื่อสร้างบุญกุศลถวายแก่หลวงปู่ปาน และหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านอีกรอบหนึ่ง ก็พอดีหลวงพี่นิลหรือที่หลายท่านเรียกว่าหลวงพ่อนิล ท่านรับเป็นเจ้าภาพตรงจุดนี้ คือข้าวปลาอาหารในวันนี้ หลวงพี่นิลกับคณะศิษย์รับเป็นเจ้าภาพเลี้ยงพวกเราทุกคน ก็ต้องบอกว่าเป็นมหาสังฆทาน เพราะมีพระเกิน ๑๐๐ รูป สมัยโบราณ ๑๐๐ เขาถือว่าสมบูรณ์บริบูรณ์ก็คือเต็มร้อยถ้วน ๆ

ในบรรดาคณาจารย์ ๖ ท่านสมัยพุทธกาล มีอยู่ท่านหนึ่งเรียกว่าบูรณกัสสปะ คำว่า “บูรณะ” แปลว่าเต็มถ้วน สมบูรณ์บริบูรณ์ เพราะเขาเป็นคนที่เกิดมาเป็นคนที่ ๑๐๐ พอดี บรรดาทาสในเรือนเศรษฐี พอบูรณกัสสปะเกิดมา จาก ๙๙ คนก็ ๑๐๐ ถ้วน เขาตั้งชื่อว่านายกัสสปะ ก็เลยต่อฉายาไว้ด้านหน้าว่าบูรณกัสสปะ คราวนี้เราต้องบอกว่าเกินร้อย ในเมื่อเกินร้อยก็แปลว่ามีมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-07-2016 เมื่อ 14:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 105 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา