ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 01-06-2012, 07:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,236 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระพุทธองค์ยังทรงสอนต่อไปว่า ให้พิจารณาในกายคตาสติ คือให้เห็นว่าสภาพร่างกายนี้นอกจากสกปรกแล้ว ยังไม่ใช่แท่งทึบ ประกอบขึ้นมาจากอวัยวะภายในภายนอก ใหญ่เล็ก มากมายเต็มไปหมด ภายในร่างกายของเรา แค่เปิดผิวหนังขึ้นมาเท่านั้น ก็ไม่มีใครทนดูได้แล้ว เพราะว่าใต้ผิวหนังของเราไปก็คือ เลือด เนื้อ กระดูก เส้นเอ็นต่าง ๆ

แค่ผิวหนังของเราฉีกขาดเป็นรอยเพียงเล็กน้อย เลือดไหลออกมา แม้เป็นเลือดของเราเอง เราก็ยังรังเกียจว่าสกปรก แล้วเราลองดูว่าภายในยังมีตับ ไต ไส้ ปอด ม้าม หัวใจ ยั้วเยี้ยไปหมด เวลาผีแหกอกหลอกเรา เรายังหวาดกลัววิ่งหนี แต่ว่าตัวของเราก็คือผีดี ๆ นี่เอง เพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ในตัวของเราก็มี ในตัวของคนอื่นก็มี

เมื่อองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า สอนวิธีดับไฟราคะให้แก่เรา ก็ขอให้ทุกท่านมีสติ หมั่นเจริญภาวนาและพิจารณาบ่อย ๆ ในกายคตาสติและอสุภกรรมฐานนี้ ก็จะทำให้ไฟราคะนั้นค่อย ๆ ดับสลายลง มีอำนาจในการเผาผลาญทำร้ายเราได้น้อยลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งจิตของเราสามารถตัด ละ ขาดจากร่างกายนี้ได้ ไฟราคะก็จะไม่มีอำนาจจะทำร้ายเราได้อีก ก็แปลว่าเราพ้นจากไฟกองที่ ๒ ไปได้แล้ว

องค์สมเด็จพระประทีปแก้วกล่าวถึงไฟกองที่ ๓ ว่า ไฟโทสะ คือความโกรธ เกลียด อาฆาต พยาบาทต่อผู้อื่น สิ่งที่ก่อให้เกิดโทสะนั้น ก็คือสิ่งที่เราไม่ชอบใจมากระทบตา กระทบหู กระทบจมูก กระทบลิ้น กระทบกาย และกระทบใจของเรา อย่างเช่น ตาเห็นรูปที่ไม่พอใจ ก็เกิดอาการกระทบขึ้นมา หูได้ยินเสียงที่ไม่พอใจ ก็เกิดอารมณ์ที่กระทบขึ้นมา เป็นต้น

การกระทบนั้นเป็นเหมือนกับเชื้อไฟ กระทบเข้ากับเปลวไฟก็เริ่มก่อเกิดเป็นไฟลุกไหม้ขึ้นมา ถ้าหากว่าความไม่พอใจมีมากเข้า ก็จะแสดงออกทางกายและวาจา ในเมื่อกายวาจาไม่สามารถที่จะทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนอย่างที่ใจเราต้องการ เราก็จะเก็บไปคิดไปแค้นข้ามวันข้ามคืน บางคนคิดจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ทำให้สุขภาพร่างกายชำรุดทรุดโทรมไปเลยก็มี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2012 เมื่อ 17:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 59 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา