ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 16-05-2010, 09:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,531 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ความเจ็บไข้ได้ป่วยต้องเกิดขึ้นเป็นปกติสำหรับแต่ละคนอยู่แล้ว โดยเฉพาะโรคสำคัญที่สุด ก็คือ โรคหิว ซึ่งตามพระบาลีกล่าวว่า ชิคัจฉา ปรมา โรคา ความหิวจัดเป็นโรคอย่างยิ่ง สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ไม่ว่าจะตัวเขา ก็คือผู้ที่มาประท้วงเรียกร้องทั้งหลาย ตลอดจนตัวเราทั้งหลายก็เช่นกัน มีอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว เมื่อมีอยู่แล้วก็ต้องดิ้นรนหาทางบำบัด เพื่อไม่ให้สร้างความทุกข์ให้เกิดแก่เราไปมากกว่านี้ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้คือความทุกข์ที่เกิดขึ้นเป็นปกติของมนุษย์และสัตว์ทุกรูปทุกนาม

แม้กระทั่งวัตถุธาตุก็ตาม ก็มีความทุกข์เป็นปกติ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ก้อนหิน ตึกรามบ้านช่อง รถยนต์ รถไฟสิ่งใดก็ตาม สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นถึงแม้จะไม่มีชีวิตจิตใจ หรือจะมีชีวิตแต่ก็มีแค่ประสาทสัมผัส แต่ไม่ได้มีดวงจิตอย่างต้นไม้ สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นก็ก้าวไปหาความเสื่อมอยูjตลอดเวลา สภาพเสื่อมทรงตัวอยู่ไม่ได้นั่นแหละ คือความทุกข์ เรียกว่าสภาวทุกข์ คือทุกข์โดยสภาพของสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น ซึ่งต้องเสื่อมสิ้นสภาพไป ก็แปลว่า สิ่งมีชีวิตก็ดี สิ่งไม่มีชีวิตก็ดี ล้วนแต่มีความทุกข์ทั้งสิ้น และท้ายสุดก็ไม่เหลือตัวตนเราเขาให้ยึดถือมั่นหมายได้

เราไปนึกถึงผู้เรียกร้องประชาธิปไตย เมื่อปี ๒๕๑๖ ก็ดี ๒๕๑๙ ก็ดี ๒๕๓๕ ก็ดี ตลอดจนกระทั่งในปัจจุบันนี้ก็ดี หลายต่อหลายท่านล้วนล่วงลับดับขันธ์ไปแล้ว ไปสู่ภพภูมิตามความดีความชั่วที่ตนเองจะยึดถือไว้ได้ก่อนจะสิ้นชีวิต ไม่มีใครที่สามารถดำรงขันธ์อยู่ได้ ตัวเราทั้งหลายตลอดจนกระทั่งผู้ที่เรียกร้องประชาธิปไตยในปัจจุบันนี้ ท้ายสุดก็ต้องตายไปทั้งสิ้น ไม่มีใครที่สามารถดำรงสภาพอยู่ได้ ก็แปลว่า ไม่มีอะไรที่เรายึดถือเป็นตัวเป็นตน เป็นเราเป็นเขาได้ทั้งสิ้น สภาพทั้งหมดก็คือ ล้วนแล้วแต่เพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน

เมื่อเห็นดังนี้แล้ว เราก็จะเห็นได้ว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่เขาทำนั้น จริง ๆ แล้วก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด ระหว่างการกระทำนั้นก็ประกอบไปด้วยความทุกข์เป็นปกติ และท้ายสุดก็ไม่มีใครที่สามารถอยู่ยั้งยืนยง ล้วนแต่เสื่อมสลายตายพังไปไม่เหลืออะไรเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-05-2010 เมื่อ 10:02
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา