ความทุกข์ที่รุมเร้าเรานี้ มีมาตั้งแต่ก่อนเกิด คำว่าก่อนเกิดหมายความว่า ทันทีที่เราปฏิสนธิในท้องแม่ ก็โดนไฟธาตุของแม่เคี่ยวเผาเราอยู่ตลอดเวลา พระสีวลีท่านกล่าวว่า ตอนที่อยู่ในท้องแม่เหมือนกับอยู่ในหม้อนึ่ง ก็คือโดนอบโดนรมด้วยความร้อนอยู่ตลอดเวลาจากไฟธาตุของแม่ อยู่ในที่คับแคบ ปวดเมื่อยไปทั้งเนื้อทั้งตัว คลอดออกมาเจอความหนักความหนาวความร้อนของอากาศ ก็แสบร้อนไปทั้งผิวกาย เด็ก ๆ ที่เกิดมาจึงร้องไห้เสียงดังมาก
เมื่อเกิดมาแล้วเป็นอย่างไร ? สกปรกต้องชำระล้างร่างกาย หิวต้องกิน กระหายต้องดื่ม ปวดอุจจาระต้องถ่ายหนัก ปวดปัสสาวะต้องถ่ายเบา สกปรกโสโครกต้องชำระล้างร่างกาย ต้องหัดพลิกตัว หัดคืบ หัดคลาน หัดเดิน หัดยืน หัดวิ่ง พูดไม่ได้ก็พยายามฝึกหัดจนพูดได้ ต้องเล่าเรียนหนังสือ สิ่งทั้งหลายที่กล่าวมา ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ทับถมเพิ่มเติมเข้ามาในชีวิตของเรา ทำให้อยู่ในห้วงทุกข์ตลอดเวลา
เท่านั้นยังไม่พอ เราเองยังจะสรรหาคู่มา จากคนเดียวกลายเป็น ๒ คน จากขันธ์ ๕ กลายเป็นขันธ์ ๑๐ ตัวคนเดียวทุกข์คนเดียวยังไม่พอ หาทุกข์มาเพิ่มให้อีก จากที่จะกินจะนอนอย่างไรก็ได้ กลายเป็นมีคนให้ต้องห่วงต้องใยอยู่ตลอดเวลา เขาป่วยก็เหมือนกับเราป่วยไปด้วย อดตาหลับขับตานอนเพื่อดูแล
ถ้ายิ่งมีลูกเล็ก ๆ ขึ้นมาก็ยิ่งทุกข์หนัก ไม่ได้นอนเต็มตาแม้แต่คืนเดียว ต้องคอยดูแล คอยเลี้ยงดู คอยทำความสะอาด เจ็บไข้ได้ป่วย พ่อแม่ก็เหมือนกับจะขาดใจไปด้วย คอยช่วยรักษาพยาบาลอยู่ตลอดเวลา
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2017 เมื่อ 19:28
|