ถาม : กิเลสที่ตัวละเอียดขึ้นไปละอย่างไรคะ
ตอบ : มันไม่ได้ละอย่างไรหรอก มันก็พิจารณาให้เห็นถึงความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา เพียงแต่ว่านานไป ๆ มันก็จะค่อย ๆ คลายออกได้ ซ้ำอยู่อย่างนั้น
ถาม : ตอนแรกก็กะฟันแค่สังโยชน์ ๕ ไป ๆ มา ๆ ตัวอื่นโผล่มาอีกอย่างแรง แค่นี้จึงไม่พอ
ตอบ : อย่าคิดว่ามันหมด มันมีเยอะกว่าที่คิด เคยบอกว่ามันเหมือนกับเราโค่นต้นไม้ มันล้มลง ฟ้าสะท้านดินสะเทือน เราทำอะไรได้เยอะเหลือเกิน ที่ไหนได้พ่อคุณ ตอกับรากเยอะกว่ากิ่งข้างบนอีก
ถาม : ตอนแรกก็นึกว่าจะสบาย
ตอบ : อาตมาเป็นมาหลายยกแล้วไอ้จะสบายนี่ แรก ๆ พอผ่านไปจุดหนึ่ง โอ๊ย สบายแล้วเรา ที่ไหนได้ เดี๋ยวมีที่แย่กว่านั้นอีก ไปค่อย ๆ ทำ
ถาม : แล้วแบบเวลาที่ไล่กรรมฐาน ๔๐ ตอนแรกที่หนูไล่ขึ้น ๆ ลง ๆ ไปทีละกอง ๆ ตอนหลังเลยมารู้ว่ามันสามารถทำในระดับเดียวได้
ตอบ : มันทรงอารมณ์เต็มที่แล้วเราค่อยเปลี่ยนอารมณ์นิดเดียว ไม่ต้องไปขึ้น ๆ ลง ๆ
ถาม : หนูขอถามความแน่ใจหน่อยค่ะว่า อารมณ์ที่เป็นสีลานุสติมันคล้ายกับพรหมวิหารใช่หรือเปล่าคะ
ตอบ : คล้ายกัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2009 เมื่อ 11:40
|