๕. พระพุทธเจ้าครั้งเสวยชาติเป็นพระโพธิสัตว์
พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน พระพุทธองค์ตรัสแจงอานิสงส์ของเมตตาพรหมวิหารไว้อย่างไร
พระนาคเสนทูลตอบว่า ขอถวายพระพร พระผู้มีพระภาคทรงตรัสแจงอานิสงส์ของเมตตาพรหมวิหารออกเป็น ๑๑ ประการคือ
๑. นอนเป็นสุข
๒. ตื่นก็เป็นสุข
๓. ฝันดีเป็นมงคล
๔. เป็นที่รักใคร่ของหมู่มนุษย์
๕. เป็นที่รักของเล่าอมนุษย์
๖. เทพยดาย่อมรักษา
๗. เพลิง พิษ และศัสตราวุธย่อมไม่ตกต้อง
๘. จิตย่อมมั่นคง
๙. ผิวหน้าผ่องใส
๑๐. เมื่อจะตายย่อมมีสติ
๑๑. ถ้ายังไม่ได้บรรลุมรรคผลก็จะไปเกิดในพรหมโลก
ม. ถ้าเช่นนั้น เหตุใดสุวรรณสามผู้เจริญเมตตาพรหมวิหารอยู่เนือง ๆ จึงถูกศรของปิลิยักษ์ล้มสลบลงเล่า
น. เป็นเพราะในขณะนั้น สุวรรณสามเมื่อยล้าจากการเดินท่องหาผลไม้มาเลี้ยงบิดามารดา จึงเผลอสติมิได้เจริญเมตตาพรหมวิหาร ขอถวายพระพร ด้วยเหตุนี้ สุวรรณสามจึงถูกยิง
ม. จงหาตัวอย่างเปรียบเทียบให้ฟัง
น. ขอถวายพระพร อันธรรมดาลูกศรที่ข้าศึกยิงมา จะป้องกันมิให้ถูกตัวได้ก็ต่อเมื่อสวมเกราะไว้ เมตตาพรหมวิหารก็เสมือนเกราะ
จะเกิดผลตามที่พระพุทธองค์ทรงตรัสแจงก็ต่อเมื่อเจริญจิตภาวนาอยู่สม่ำเสมอ หากประมาทละเลยเสีย
เมตตาพรหมวิหารก็ไม่มีกระแสพอที่จะต้านทานอันตรายนั้น ๆ ไว้ได้
ขอถวายพระพร ตามเรื่องปรากฏว่า พระเจ้าปิลิยักษ์มีพระอัธยาศัยในการล่าสัตว์ ทรงท่องยิงเนื้ออยู่เนือง ๆ
ครั้นทอดพระเนตรเห็นสุวรรณสามเดินแบกหม้อน้ำท่ามกลางฝูงเนื้อเป็นที่แปลกตา จึงตั้งพระทัยว่าต้องยิงสุวรรณสามมิให้หนี
เพื่อหาโอกาสไถ่ถามความเป็นมา ประจวบกับสุวรรณสามมิได้เจริญเมตตาพรหมวิหารอยู่ในขณะนั้น
เมตตาจิตจึงมีกำลังน้อยไม่พอที่จะทำให้พระอัธยาศัยและความมุ่งมั่นในการล่าของพระปิลิยักษ์จางลงได้
ด้วยเหตุนี้ สุวรรณสามจึงถูกศรสลบนิ่งอยู่กับที่ (เมตตานิสังสปัญหา)
ม. พระคุณเจ้าว่านี้ชอบแล้ว
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ป้านุช : 24-06-2009 เมื่อ 10:12
|