ดูแบบคำตอบเดียว
  #61  
เก่า 09-12-2009, 08:32
วาโยรัตนะ วาโยรัตนะ is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 550
ได้ให้อนุโมทนา: 13,972
ได้รับอนุโมทนา 45,909 ครั้ง ใน 953 โพสต์
วาโยรัตนะ is on a distinguished road
Default

๒๔ "หลวงพ่อครับ หนูอยากกลับวัด" (คนอื่นเขาอยากกลับบ้าน แต่หนูอยากกลับวัด)

หลังจากออกเดินทางจากจังหวัดสตูลตั้งแต่ ๐๕.๐๐ น. ด้วยความไม่คุ้นเคยเส้นทางทำให้ใช้ความเร็วในการเดินทางได้ไม่มากนัก เราเปลี่ยนมาใช้เส้นทาง สตูล-ตรัง-กระบี่-พังงา-ภูเก็ต ระหว่างทางก็ได้สนทนาธรรมกับคุณหม่อมพอหอมปากหอมคอ

ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์: "เป็นอย่างไรบ้างโยม เมื่อคืนเล่นเอาแทบรากเลือดเลยใช่หรือเปล่า หลวงพี่ลุกเดินแทบไม่ไหว รู้เลยว่าคนที่เขาเป็นอัมพาตไม่มีแรงที่ขา อารมณ์เขาเป็นอย่างไรตอนนั้น หลวงพี่ว่าตอนที่หลวงพี่ขึ้นเทศน์ในวันออกพรรษานั้น เวลาลงมากราบพระ กราบหลวงพ่อแล้ว ขามันแข็งไปทั้งสองข้าง นั่นคือความทรมานที่สุดแล้วนะ แต่ครั้งนี้มันหนักกว่าครั้งนั้น มันทำให้เห็นจริง ๆ เลยว่า
ร่ายกายไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของของเรา"

โยมหม่อม:"กระผมเคยเจอตอนที่ผมยังบวชอยู่ครั้งหนึ่งครับ ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองในชีวิต แต่เราก็ผ่านมาได้ครับหลวงพี่ นับเป็นการทำวัตรที่นานที่สุดในชีวิตของผม ณ ขณะนี้"

ทัดฤทธิ์-ทิดรัตน์: "สาธุ แสดงว่าที่หลวงพี่พาโยมมาปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ โยมได้เจออะไรหลาย ๆ อย่างในคราวเดียวกันเลย หลวงพี่โมทนาบุญด้วยขอให้เจริญ ๆ เอาไว้คราวหน้าโยมบวชกับหลวงพ่อแล้วหลวงพี่สมัครเป็นโยมอุปัฏฐากถือว่าต่างตอบแทน"

โยมหม่อม : "ขอรับหลวงพี่"

พูดไปก็ไวเหมือนโกหก เรามาถึงภูเก็ตช่วงประมาณ ๑๑.๐๐ น. ญาติโยมที่บ้าน โยมแม่ โยมภรรยา โยมลูก โดยเฉพาะเจ้าตัวเล็กโตขึ้นมาก จนกระผมแทบจะจำไม่ได้ สภาพบ้านเรือนก็เป็นปกติ สิ่งแรกที่กระผมตรงเข้าไปก่อนก็คือ ห้องพระ กราบพระและอุทิศบุญแสดงความขอบคุณต่อเหล่าเทวดาทั้งหลายตลอดจนเจ้าที่เจ้าทาง ที่ท่านช่วยปกป้องดูแลในขณะที่กระผมไม่อยู่

วันที่สองความรู้สึกของอารมณ์ที่รับเอาอารมณ์กระทบต่าง ๆ มันเริ่มเข้ามา โดยที่จริงเรื่องเหล่านี้มันเป็นเรื่องปกติ หากแต่ว่าเราต้องระลึกอยู่เสมอว่า เราเป็นพระเป็นสมณะ ความวุ่นวายในการดำรงชีวิตของบุคคลธรรมดาโดยทั่วไป มันทำให้กระผมได้ตระหนักว่า "ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเรา"

อะไรที่เป็นกิจธุระในการมาในครั้งนี้ กระผมเองจึงต้องปรับเปลี่ยนว่าต้องกระทำให้เสร็จอย่างรวดเร็วที่สุด แล้วรีบเดินทางกลับวัด
การมาสงเคราะห์ ญาติโยมในครั้งนี้ เมื่อต่างก็ได้เห็นซึ่งกันและกันว่า อยู่สบายในบทบาทตามแต่ละบุคคลแล้ว ก็ถือว่าเป็นการดีที่สุดแล้ว ภารกิจที่เหลือก็คือการเดินทางไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อนำเงินกฐินที่ญาติโยมร่วมทำบุญมาไปมอบให้กับ "วัดถ้ำวราราม" เพื่อเป็นปัจจัยในการก่อสร้างและบูรณะพระอุโบสถ

เรื่องของปัจจัยต่าง ๆ หลวงพ่อท่านย้ำหนักย้ำหนาว่า "เรารับเงินของญาติโยมมาเพื่อประโยชน์อันใดก็ตาม ที่ญาติโยมเสียสละปัจจัยเหล่านั้นเพื่อร่วมบุญมา จงถือเป็นหน้าที่ว่า เราต้องทำตามวัตถุประสงค์เหล่านั้นของญาติโยม อย่าได้คิดเปลี่ยนแปลงใด ๆ"

การเดินทางไปวัดถ้ำวรารามก็สำเร็จตามวัตถุประสงค์ทุกประการ และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องลาญาติโยมกลับกรุงเทพฯ โดยมีคุณหม่อมซึ่งติดภารกิจด่วนได้เดินทางกลับล่วงหน้าไปก่อนแล้ว มารอรับที่สนามบิน การขึ้นเครื่องบินครั้งที่แล้วมันทำให้กระผมกลัวจริง ๆ เจ้ากรรมนายเวร ไม่มีคำว่าลดราวาศอกให้เลย โดยปกติกระผมเป็นนักดำน้ำ เรื่องของการปรับความกดดันของอากาศในหูนั้นเป็นเรื่องง่ายมาก ๆ แต่ในครั้งนั้นกระผมไม่สามารถปรับความกดดันของอากาศในหู มันปวดมาก ๆ ปวดจนคิดว่าแก้วหูคงจะระเบิด ขณะที่เครื่องบินปรับเพดานบินขึ้นไปในระดับความสูง ความเจ็บปวดก็ยิ่งเพิ่มทวีมากขึ้น จนคิดว่าอาจจะต้องมาตายในขณะครองผ้าเหลืองและตายในระดับความสูงที่ใกล้สวรรค์เต็มที
กลั้นใจอยู่นาน นึกถึงพระ หลวงปู่ หลวงพ่อ ลูกจะไปถึงวัดท่าขนุนหรือเปล่าขอรับ แต่อย่างไรเสียถ้ามันจะตายลูกก็ขอไปพระนิพพาน ขออโหสิกรรมและอุทิศบุญให้แด่เจ้ากรรมนายเวรท่านนั้น อะไรที่กระผมเคยล่วงเกินก็ขอขมากรรมต่อกัน

ปวดอยู่นานมากร่วมชั่วโมง จนกัปตันประกาศให้สละเครื่อง.... ขออภัยครับ จนกัปตันประกาศให้รัดเข็มขัดเพราะจะนำเครื่องลงสนามบินดอนเมือง อาการปวดจึงค่อย ๆ หายไป.....สาธุถึงแล้ว ถือว่าเวรกรรมนั้นได้ชดใช้กันไปแล้วนะ ก็ขอให้ท่านเจ้ากรรมนายเวรท่านนี้จงไปสู่สุคติเทอญ...อิทัง ปุญญะ ผะลังฯ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





ภาพแรกบนซ้ายมือคือหมู่พระประธานในพระอุโบสถวัดไชยธาราราม(วัดฉลอง หลวงปู่แช่ม)
ภาพบนขวามือ รูปหล่อซ้ายมือสุดคือ พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี (หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง) รูปหล่อตรงกลางคือรูปหล่อของหลวงพ่อช่วง รูปหล่อองค์ที่สามด้านขวามือสุด หลวงพ่อเกลื้อม
ภาพซ้ายมือล่าง พระพี่พระน้องร่วมกันทำวัตรเย็นที่วัดฉลอง
ภาพขวามือล่าง คือ "เรือพระ" ซึ่งเป็นเรือพระประจำปีของวัดถ้ำวราราม
ขอทุกท่านโมทนากับบุญถวายกฐินวัดถ้ำวรารามด้วยเทอญ
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 10-12-2009 เมื่อ 16:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 78 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา