การพิจารณาสมณศักดิ์เขาคิดจากงานคณะสงฆ์ ๖ ด้าน คือ การปกครอง การเผยแผ่ การศึกษา การศาสนสงเคราะห์ การศึกษาสงเคราะห์ และการสาธารณูปการ มีไม่ครบเขาไม่ให้ แต่ถ้าความทราบไปถึงพระเนตรพระกรรณในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ไม่ว่าจะมีครบหรือไม่ครบ ถ้าพระองค์ท่านเห็นว่าสมควร พระองค์ท่านก็ถวายให้เลย
หลวงปู่ท่านจึงขึ้นมาเป็นพระราชวัชรรังษี เพิ่งจะมรณภาพและพระราชทานเพลิงศพไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ ท่านก็อยู่จนอายุ ๘๗ ปีถึงได้เป็นเจ้าคุณ หลวงปู่สุวรรณถ้าทนอยู่ไม่ถึงร้อยก็ไม่ได้เป็นเหมือนกัน ท่านอยู่จนถึงร้อยกว่าปีถึงได้เป็น
บางทีอาตมาภาพก็อายตัวเองเหมือนกัน เพราะว่าเป็นพระครูสัญญาบัตรฝ่ายวิปัสสนาด้วย แล้วก็เทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วันนี้ไปก็นั่งรองจากเจ้าคณะอำเภอรูปเดียว รู้สึกเหมือนกับว่าความดีของเรายังไม่พอ แต่ในหลวงท่านให้มาเยอะ ในสัญญาบัตรพระองค์ท่านก็จะระบุไว้ว่า "ขอพระคุณท่านโปรดรับภาระธุระในพระพุทธศาสนา" ก็แปลว่าให้แบกงานแทนพระองค์ท่านด้วย แต่ว่าเรื่องงานพวกนี้ถ้าหากว่าเราบวชมาด้วยใจรักจริง ๆ ก็เป็นงานที่ต้องทำอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่าหลายท่านมักจะเอาเฉพาะตน ก็คือนั่งภาวนาเงียบ ๆ สมัยนี้ถ้าภาวนาเงียบ ๆ แล้วจะรอดยาก เพราะว่ากระแสโลกแรง ต้องออกมาชนให้รู้เรื่องกันไปข้างหนึ่งเลย..!
การปฏิบัติธรรมถ้าไม่มีการทดสอบเราจะไม่รู้ว่าสิ่งที่เราทำนั้นมีผลเท่าไร อย่างอาตมาภาพนี่ถ้าโดนคนอื่นด่า ก็จะช่วยเขาด่าด้วย อยากด่าพระอาจารย์เล็กใช่ไหม..? เราก็ผสมโรงด่าไปด้วย..! ก็คือไม่เห็นสาระในการด่า แล้วจะไปถือโทษโกรธเคืองอะไร ?
คนเราถ้าเขาด่าเรา เราต้องพิจารณา อันดับแรกเลย สิ่งที่เขาด่านั้นเป็นจริงไหม ?
ถ้าเป็นจริงเราควรที่จะขอบใจเขา ที่เป็นกระจกสะท้อนให้เห็นภาพคนที่ไม่ดีของเรา จะได้แก้ไข
ถ้าไม่เป็นจริง ความจริงเป็นอย่างไรเขายังไม่รู้เลย คนโง่ขนาดนั้นเราก็อภัยให้เขาเถอะ ถ้าคิดได้ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปแบก..ใช่ไหม ?
จนกระทั่งพระแถวนี้เขาบอกว่า "พระอาจารย์เล็กโกรธใครไม่เป็นหรอก" ใครบอกว่าโกรธไม่เป็น โกรธเป็น..แต่กูขี้เกียจแบกไว้ โกรธเสร็จก็กองทิ้งไว้ตรงนั้นแหละ แบกมาทำไม ? เหนื่อยตายชัก..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2023 เมื่อ 20:23
|