ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 03-10-2021, 23:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,634
ได้ให้อนุโมทนา: 151,878
ได้รับอนุโมทนา 4,414,046 ครั้ง ใน 34,224 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราจะเห็นว่าบางท่านนั่งกรรมฐานกันที ๓ วัน ๓ คืนสบายมาก ส่วนของเราแค่ ๓๐ นาทีก็จะตายแล้ว นั่นเป็นเพราะว่าทางสายกลางของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ดังนั้น...เมื่อท่านปฏิบัติธรรมไปแล้วจนรู้สึกว่าไปต่อไม่ไหว ขอให้ลองฝืนดูก่อน ถ้าฝืนแล้วไม่ไหวจริง ๆ ค่อยเลิก หันไปทำสิ่งอื่น ๆ แทน แต่ถ้าฝืนแล้วยังไหว ให้รู้ว่าเมื่อครู่นี้กิเลสหลอกเรา

กิเลสนั้นมีมารยามากอย่างยิ่ง และอาศัยอยู่กับเราจนแทบจะเป็นตัวตนเดียวกัน เมื่อถึงเวลาเราใช้ความเพียรในการแผดเผากิเลส แค่เริ่มวิ่งเข้าหาลมหายใจเข้าออก กิเลสก็รู้ว่าตนเองโดนตีกรอบไปไหนไม่ได้แล้ว ก็จะพยายามอาละวาด นั่งนานนิดหนึ่ง ก็ทำท่าจะตายขึ้นมา

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราเองจะต้องมีสติมีปัญญาที่เพียงพอ ไม่อย่างนั้นแล้ว เราก็จะไปเข้าใจว่าที่จะตายนั่นก็คือเรา แล้วก็เลิกการปฏิบัติธรรมไป ทำให้กิเลสรอดไปได้ทุกครั้ง เพราะว่าทุกครั้งเราจะรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว จะตายแล้ว เลิกเถอะ ขอให้รู้ว่านั่นเป็นสิ่งที่กิเลสเรียกร้อง ไม่ใช่ตัวเรา

นักปฏิบัติที่แท้จริงนั้นต้องแลกกันด้วยชีวิต ถ้าหากว่าสบโอกาสแล้ว มีอย่างเดียวก็คือต้องตามตี ตามบี้กิเลสให้ตายไปเลย เพราะว่ากิเลสนั้นไม่เคยปรานีเรา เผลอเมื่อไรก็ยึดครองจิตใจของเราเอาไว้ ให้ประสบความทุกข์จาก รัก โลภ โกรธ หลง เป็นปกติ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 04-10-2021 เมื่อ 16:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา