ดูแบบคำตอบเดียว
  #146  
เก่า 19-02-2011, 12:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ในชีวิตแทบจะไม่เคยปรุงเครื่องปรุงรส เหตุที่ไม่เติมก็เพราะว่า ถ้าเติมแล้วอร่อยแปลว่าเป็นฝีมือเราทำเอง ถ้าอาหารอร่อยต้องอร่อยเพราะฝีมือคนทำ แต่ถ้าเติมแล้วอร่อยก็เป็นเพราะเราทำเอง จึงเคยชินกับการฉันที่ไม่ต้องเติม

มาระยะหลัง ๆ อาหารไทยเสียรสชาติหมด เด็ก ๆ ก็เสียลิ้น เพราะรสชาติออกหวานไปหมด ขนาดแกงส้มก็หวาน น้ำพริกก็หวาน ชิมแล้วหมดอารมณ์ ปกติอาหารไทยของเราจะมีของหวานตามหลังอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น..อาหารไทยจึงไม่ใช่อาหารรสหวาน นอกจากบางชนิดอย่างขนมจีนน้ำพริกหรือแกงบอน จะมีหวานนำนิดหน่อย

ถ้าใครบอกว่าอาหารชาววังรสหวาน อย่าไปเชื่อเชียว ชาววังลิ้นท่านประณีตกว่าเราเยอะ เปรี้ยวหวานมันเค็มของท่านจะครบรสกว่าเรา เพราะมีเวลาในการประดิษฐ์ประดอยมากกว่า แต่เขาไปลือว่ากินหวานเป็นต้นตำรับชาววัง เสียหายไปหลายแสน อาตมาเคยวิ่งเล่นในวัง ไม่เห็นเป็นอย่างนี้เลย"

ถาม : เรื่องอาหารทำให้คนติดได้ง่าย พระพุทธเจ้าจึงให้คนพุทธจริตพิจารณากองนี้หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับว่าคนนั้นแพ้อะไร รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์ เป็นต้น คนที่ติดเรื่องกลิ่นเราจะเห็นว่า น้ำหอมแพงแค่ไหนเขาก็สะสม ขวดเท่านิ้วก้อยราคาเกือบหมื่นก็ซื้อมาสะสมเพราะชอบกลิ่น พอถึงเวลาบริษัทมีชื่อเสียงผลิตน้ำหอมกลิ่นใหม่ เป็นตายเขาก็ต้องไปลองให้ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 19-02-2011 เมื่อ 15:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา