ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 11-10-2009, 22:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,443 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกประการหนึ่งคือ การเดินทางในฤดูฝนนั้น ฝนฟ้าย่อมตกเป็นปรกติ สมัยก่อนพระภิกษุสงฆ์ใช้ผ้าบังสุกุล ซึ่งเก็บเอาผ้าเก่าของเขา หนาบ้าง บางบ้าง มาเย็บมาย้อมด้วยน้ำฝาด เพื่อทำเป็นผ้าไตรจีวร ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผ้าที่ทั้งหนาและหนัก เมื่อเดินทางในฤดูฝนไปโดนฝนเข้า นอกจากจะต้องแบกผ้าหนัก ๆ ไปแล้ว ยังตากแห้งได้ยากมาก และท้ายสุดเมื่อผ้าไม่แห้งบ่อย ๆ เข้าก็เกิดการผุขึ้นมา ทำให้ต้องเสียผ้าจีวรไปโดยปริยาย กว่าจะเสาะแสวงหาผ้าบังสุกุลมาเพื่อเย็บเป็นจีวรใหม่ ก็เสียเวลาไปนานมาก อีกประการหนึ่งการเดินทางในฤดูฝนนั้นทำให้เจ็บไข้ได้ป่วยง่าย

เมื่อเป็นดังนั้น องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา จึงได้อนุวัติตามความต้องการของชาวบ้าน โดยอนุญาตให้พระภิกษุทั้งหลายสามารถจำพรรษา ณ ที่ใดที่หนึ่ง อย่างเช่นว่าโคนต้นไม้ ซึ่งคงจะลำบากอยู่สักหน่อย ในโพรงไม้ ถ้าหากว่าต้นไม้ใหญ่ ๆ มีโพรงคงพออาศัยได้ ในถ้ำบ้าง ในเงื้อมเขาบ้าง ในบ้านร้างบ้าง

แม้กระทั่งในกองเกวียนก็สามารถจำพรรษาได้ เนื่องจากสมัยก่อนการขนสินค้าไปขายที่ต่างบ้านต่างเมือง บางทีไปกันเป็นปี ๆ พระภิกษุที่ติดตามกองเกวียนไป เพื่ออนุเคราะห์สงเคราะห์บรรดาพ่อค้าให้ได้มีโอกาสสดับฟังพระธรรมเทศนา ก็พลอยต้องจำพรรษาในกองเกวียนไปด้วย เป็นต้น

เมื่อระยะต่อมาญาติโยมทั้งหลาย นิยมสร้างอารามถวายแก่พระภิกษุในพระพุทธศาสนา ทำให้พระมีที่อยู่อาศัยเป็นที่เป็นทาง จึงเกิดเป็นค่านิยมว่า พอเข้าพรรษามาก็จะไปซ่อมแซมอารามกุฏิต่าง ๆ ให้อยู่ในสภาพที่เรียบร้อยใช้งานได้ แล้วนิมนต์พระภิกษุสงฆ์ที่ผ่านมาในบริเวณนั้น จำพรรษาในบริเวณบ้านของตน เพื่อที่จะให้ตนเองตลอดจนเพื่อนบ้าน ได้มีโอกาสทำบุญใส่บาตร และฟังเทศน์ฟังธรรมในระหว่างเข้าพรรษา

ในระยะต่อมาความนิยมอยู่ประจำที่มีมากขึ้น มีการถวายที่ให้เป็นวัดในพระพุทธศาสนามากขึ้น พระภิกษุสงฆ์ที่อยู่ประจำที่มีมากขึ้นด้วย จึงกลายเป็นเทศกาลเข้าพรรษาอย่างในทุกวันนี้

ฤดูกาลเข้าพรรษานั้นมีความดีหลายอย่าง อย่างเช่นว่าพระภิกษุสงฆ์ไม่ต้องลำบากตรากตรำเดินทางในฤดูฝน สามารถหยุดอยู่ที่ใดที่หนึ่ง ได้รับฟังธรรมคำสั่งสอนจากครูบาอาจารย์ หรือได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งปริยัติและปฏิบัติ ตลอดจนญาติโยมทั้งหลายได้มีโอกาสทำบุญใส่บาตรแด่พระภิกษุสงฆ์อย่างเต็มที่ ความดีของเทศกาลเข้าพรรษามีดังที่กล่าวมานี้

โดยเฉพาะแบบธรรมเนียมปฏิบัติของบ้านเรา สมัยก่อนไม่มีไฟฟ้าจะใช้ ญาติโยมทั้งหลายก็พร้อมใจกันหล่อเทียนต้นใหญ่ เพื่อที่จะให้พระภิกษุสามเณรจะได้ใช้ตลอดพรรษา ไม่ว่าจะเป็นการจุดถวายเพื่อเป็นพุทธบูชาก็ดี หรือใช้ในการศึกษาเล่าเรียนในเวลาค่ำคืนก็ดี เทียนทั้งหลายเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วจะต้นโตมาก สามารถที่จะให้แสงสว่างตลอดทั้งสามเดือน จึงเรียกกันง่าย ๆ ว่าเทียนพรรษา

ในขณะเดียวกันเวลานั้นเป็นฤดูฝน ญาติโยมทั้งหลายก็ได้ถวายผ้าอาบน้ำฝน ซึ่งถ้าหากเปรียบไปแล้วก็คือผ้าขาวม้าของฆราวาสนั่นเอง ให้พระภิกษุได้ใช้ในการสับเปลี่ยนเวลาสรงน้ำ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2011 เมื่อ 02:59
สมาชิก 62 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา