(โยมถวายยา) เอามาทำอะไร ? บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม..อาตมาไม่เคยเป็นเลย..! เหตุที่ไม่เคยเป็นเลยเพราะว่า ระหว่างฉันอาหารจะไม่ดื่มน้ำ ทำแบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว เพราะมีความเข้าใจในเรื่องธาตุในร่างกายของเรา
พอถึงเวลาร่างกายรับอาหารลงไป ก็จะส่งไฟธาตุมาเพื่อย่อยสลายอาหารนั้น ๆ ไปให้เป็นประโยชน์ เราก็เทน้ำกลืนลงไป..ดับไฟเสียเกลี้ยงเลย พออาหารไม่ย่อย ก็ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารเป็นพิษ ซึ่งเกิดจากเราทำตัวเอง ภาษาหมอสมัยใหม่บอกว่า ร่างกายส่งน้ำย่อยมา แล้วเราก็ดื่มน้ำลงไปมาก ๆ ทำให้น้ำย่อยเจือจาง ย่อยอาหารไม่ได้
อาตมภาพอายุ ๖๔ ปีเต็ม กำลังย่าง ๖๕ ปี ไปให้หมอตรวจ เส้นเลือดหัวใจยังไม่มีตีบ ยังไม่มีตันสักเส้นหนึ่ง หมอถามว่า "หลวงพ่อทำอย่างไร ?" ไม่ได้ทำอะไรเลย อาจจะเป็นแค่กินน้อย นอนน้อย ปฏิบัติธรรมหรือทำงานให้มากเข้าไว้ พอถึงเวลาร่างกายใช้พลังงานจนหมด ไม่เหลือไขมันไปอุดหัวใจ ในเมื่อไม่เหลือไขมันไปอุดหัวใจก็ไม่เหลืออะไรไปพอกตับด้วย
ตอนนี้กำลังรอว่าเมื่อไรไขมันจะพอกพุงขึ้นมาสักที เห็นเขาบวชกัน ๒ พรรษา ๓ พรรษา..อ้วนปี๋แล้ว นี่ผ่านมาจะ ๔๐ พรรษาแล้วยังไม่ได้อะไรเลย น้ำหนักก่อนบวช ๖๓.๕ กิโลกรัม บวชมา ๓๗ ปีกว่า น้ำหนักอยู่ที่ ๖๑ กิโลกรัม ของเก่ายังไม่ได้คืนเลย..!
สองเดือนแรกที่อดข้าวเย็น น้ำหนักหายฮวบไป ๙ กิโลกรัม บวชผ่านไป ๒๐ ปี ได้คืนมา ๒ กิโลกรัม..! เฉลี่ยว่าสิบปีได้มากิโลฯ เดียว ถ้าเป็นกิจการนี่เจ๊งแน่นอน..!
หลังจากนั้นก็โดนหมอบังคับให้กินแล้วนอน กินแล้วนอน กินแล้วนอน จ่ายยาให้กินแล้วนอนหลับอย่างเดียว ได้น้ำหนักมา ๔ กิโลกรัม รวม ๆ แล้ว ๓๐ ปีได้น้ำหนักมา ๖ กิโลกรัม แต่หายไป ๙.๕ กิโลกรัม จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้ของเก่าคืนมาเลย
มีอยู่วันหนึ่ง "เฮ้ย ๖๓ แล้ว..! อีกครึ่งกิโลฯ เท่านั้น" ที่ไหนได้..ตอนนั้นเพิ่งจะดื่มน้ำลงไป ๑ ลิตร ในมือยังถือหนังสือเล่มใหญ่อยู่กับด้วแล้วขึ้นไปชั่ง ปรากฏว่าพอเข้าห้องน้ำเสร็จสรรพเรียบร้อยออกมาชั่งใหม่เหลือ ๖๑ ตามเดิม..! ไม่น่าเชื่อว่าจะขึ้นมาได้ตั้ง ๒ กิโลกรัม..!
เขาบอกว่าผู้ชายความสูงให้ลบ ๑๐๐ จะเป็นน้ำหนัก แปลว่าอาตมภาพยังขาดอยู่ ๑๑ กิโลกรัม ส่วนผู้หญิงให้เอา ๑๑๐ ไปลบจะเป็นน้ำหนัก อย่างเช่นว่าผู้หญิงสูง ๑๖๐ น้ำหนักก็จะแค่ ๕๐ กิโลกรัม..ห้ามเกินนั้น ถ้าเกินถือว่าเป็นการอวบระยะสุดท้าย..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-06-2023 เมื่อ 17:51
|