ดูแบบคำตอบเดียว
  #38  
เก่า 19-04-2012, 17:35
ชยาคมน์'s Avatar
ชยาคมน์ ชยาคมน์ is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Apr 2009
ข้อความ: 222
ได้ให้อนุโมทนา: 21,244
ได้รับอนุโมทนา 155,513 ครั้ง ใน 2,941 โพสต์
ชยาคมน์ is on a distinguished road
Default

ขออนุญาตเล่าต่อครับ

การบวชรุ่นนี้ ผมตั้งใจปฏิบัติมาก เรียกได้ว่า ปกตินั่งขัดสมาธิฟังธรรม
แต่รุ่นนี้พยายามนั่งพับเพียบให้สมกับเป็น "สุภาพบุรุษ" (แบบว่าอายเด็ก ๕๕๕) รวมทั้งพยายามกราบให้สวย

แต่ด้วยสภาพร่างกายอัน "บอบบาง" และอากาศร้อนอบอ้าว ประกอบกับฝนตก
(คืนวันที่ ๑๓ ฝนตกหนักมากและน้ำฝนสาดเข้ามาที่พักใต้ตึกแดงฝั่งที่ผมนอนพอดี ก็รับละอองฝนไปเต็มพิกัด)

อาการไข้ที่เริ่มก่อตัว ประกอบกับไม่เจียมสังขารโดยวันที่ ๑๕ ช่วงเที่ยงได้ขึ้นยอดเขาท่ามกลางแดดร้อน
และเริ่มรู้สึกว่า "งานเข้า" เพราะร่างกายอ่อนล้า แต่ก็พยายามอดทนจนบวชเนกขัมมะเรียบร้อย

วันต่อมาไปทำงาน ก็เริ่มหมดแรง อาการ คือ แขนขาไม่มีแรงและกล้ามเนื้อเกร็งตัว
โดยช่วงเช้ายังเดินไปไหนมาไหนได้ แต่ช่วงบ่ายนั่งเก้าอี้ทำงานและลุกขึ้นไม่ได้ แต่ก็พยายามกระเสือกกระสนกล้บบ้าน

พอจะเดินขึ้นตึกมีบันได ๒ ขั้นก็พยายามก้าวขึ้น แต่ "ขาพับ" เพราะไม่มีแรงและเสียหลักล้ม
ทำให้ "หัวฟาดพื้นคอนกรีต" อีกครั้ง (หลังจากปีที่แล้วรถล้มหัวฟาดพื้นมาแล้วครั้งหนึ่ง)
มารเขาเก่งจริง ๆ เผลอปุ๊บ สอยเราปั๊บ

ในใจคิดว่า "ตายแน่ ๆ" เพราะร่างกายไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นยืน
แต่ก็พยายามรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายพาสังขารกลับไปถึงห้องจนได้

วันต่อมา ลุกไม่ขึ้น แขนขาไม่มีแรงแม้จะจะลุกขึ้นนั่ง ยืนก็ไม่ได้ เดินก็ไม่ได้
น่าเศร้าจริง ๆ ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนในชีวิต จึงเริ่มสำรวจร่างกายและแยกอาการออกเป็น ๒ ส่วน คือ

๑. อาการจากการปฏิบัติ เพราะผมนั่งผิดท่า แถมนั่งท่านางฟ้า (ลืมคิดไปว่าน้ำหนักตัวผมไม่ใช่น้อยนั่งกดทับนานขนาดนั้น กำลังขาคงทนไม่ไหว) แถมขึ้นเขาไปไหว้พระกลางแดดอีก

๒. อาการจากการล้มหัวฟาดฟื้น ผมคิดว่า ไม่น่าจะมีผลมาก เพราะผมไม่มีกำลังก่อนที่จะล้มอยู่แล้ว และผลข้างเคียงเรื่องตาพร่า ปวดหัว และอาเจียนไม่ปรากฏ

๑ วันอันแสนทรมานเหมือนตกนรกทั้งเป็น เพราะไม่ได้ถ่ายหนัก ๒ วัน และเวลาฉี่ต้องฉี่ใส่ถุงพลาสติก
ข้าวก็กินไม่ได้ เพราะกลัวปวดท้องถ่ายหนัก ในแต่ละมื้อต้องกินขนมปังมื้อละ ๑ แผ่น คิด ๆ แล้วสมเพชตัวเองจริง ๆ

แต่ก็ไม่วายไปอำพี่ ญ.ผู้หญิงว่า "ตายแล้ว" ทีนี้พี่หญิงโทรหาแม่ถามว่าคมน์เป็นอย่างไร "งานเข้า"
เพราะเป็น "หลานยาย" คนเดียวของตระกูล ทุกคนก็เตรียมยกกองทัพมาเยี่ยม

วันนี้แม่ทัพใหญ่ (พ่อ) มาเยี่ยมและจับส่งโรงพยาบาล ปรากฏว่า "อาการปกติ ไม่มีผลข้างเคียงอะไร"
(คิดในใจว่า "บารมีพระ" เพราะเรารับยันต์เกราะเพชรมา) วันพรุ่งนี้รองแม่ทัพ (แม่) มา พร้อมญาติอีกจำนวนหนึ่ง

ในวันที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และรู้สึกแย่ ก็เริ่มทบทวนสิ่งที่พระอาจารย์เล็กสอนจากความจำ ซึ่งสรุปได้ว่า

"มารเขาเก่ง เวลาเราไปปฏิบัติธรรมและกำลังจะพ้นเขตที่เขาทวงได้ เขาจะรีบมาทวงและมาทำให้เราเข้าใจผิด เช่น บางคนมาปฏิบัติธรรมและกลับไปเจอเรื่องที่ไม่ดี บางคนเจอปัญหาครอบครัว บางคนเจอปัญหาเรื่องงาน บางคนเจอเหตุการณ์ที่ไม่ดี ฯลฯ ทำให้หลายคนเข้าใจว่า เข้าวัดแล้วเจอเรื่องไม่ดี ทำให้เลิกปฏิบัติ หากท่านใดเจอเหตุการณ์แบบนี้ ขอให้รู้ว่า เรากำลังจะได้ดีแล้ว ถ้าเราตั้งใจปฏิบัติต่อไปอีกนิด เขาก็จะตามทวงเราไม่ได้ ดังนั้นใครที่เจอเรื่องแบบนี้ ขอให้ตั้งใจปฏิบัติต่อไป"


ที่มาเล่า ไม่ใช่ว่า ผมทำได้ดีแล้ว แต่มาเล่าเพื่อให้ทุกท่านที่จะไปบวชรุ่นต่อไปวางแผนและเตรียมร่างกายให้ดี
โดยเฉพาะคนที่น้ำหนักมาก ต้องระมัดระวังครับ ที่สำคัญ คือ อย่าเผลอในทุกวินาทีเพราะมารเขารอเล่นงานเราตลอดเวลาครับ

แล้วเจอกันรุ่นต่อไปนะครับ

หมายเหตุ : ขอบคุณคน ๆ หนึ่งที่อดทนฟังนิทานครับ
__________________
ร่วมรณรงค์การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง เริ่มต้นได้ด้วยตัวคุณเอง

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชยาคมน์ : 19-04-2012 เมื่อ 22:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 69 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ชยาคมน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา