ดูแบบคำตอบเดียว
  #9  
เก่า 15-08-2009, 08:25
สุดใจ สุดใจ is offline
สมาชิก
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 16
ได้ให้อนุโมทนา: 392
ได้รับอนุโมทนา 5,742 ครั้ง ใน 149 โพสต์
สุดใจ is on a distinguished road
Default

การเป็นหนอนคลุกอยู่กับอาจม
กับการเป็นเหยี่ยวที่บินอยู่บนฟากฟ้า ช่างต่างกัน
บริบทของเรื่องราวง่าย ๆ ธรรมดา คนเรามองต่างกัน

ตอนที่"ครูบาเหนือชัยฯ"อยู่กับวัตรปฏิบัติแต่แรก ๆ
มีแต่คนมองว่า ....."ตุ๊เหมอ" บ้า....................
แต่สิ่งที่ท่านทำมาโดยตลอด กลับการเป็นผู้จุดประกายไฟในดวงตา......

ดวงตาที่เห็นธรรม...................
ดวงตาที่เจิดจ้าด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์
แม้แต่โรงเรียนที่ยากกันดาร ท่านก็ยังเคยมอบม้าให้ไปเป็นพาหนะสำหรับนักเรียน
และยังมีกิจกรรมอีกหลากหลายที่ท่านทำไว้

เราควรขอบคุณใคร.................................
"โกมินทร์ เสือภูเขา"ผู้จุดประกายเรื่องราวเหล่านี้

"สุเวช ภูมิรัตน์ "นายกเทศมนตรี เทศบาล ต.แม่คำ ที่ระดมทรัพยากรทุกอย่าง
เพื่อสร้างสรรค์สนับสนุน วัดป่าอาชาทอง ในฐานะคนรู้จักคุ้นเคย ครูบาฯ มานาน

"สื่อมวลชน"ทุกแขนง ที่ช่วยกันโหมกระพือแสงสว่างของ"วัดป่าอาชาทอง"

หรือศรัทธาของพี่น้องชาวพุทธ ที่โหยหาพระนักปฏิบัติมากกว่า"สีสันของวงการสงฆ์"

ตัวอย่างการเป็นผู้นำในการปฏิบัติธรรม เพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวมมีดังนี้

ปมบุกยิงเจ้าอาวาสวัด "พระขี่ม้า อันซีนไทยแลนด์" เผยตั้งสำนักปฏิบัติธรรม และเสนอโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติขวางฮุบที่ป่า ๑๐๐ ไร่ จนกลุ่มผู้เสียประโยชน์เกิดความแค้น

ก่อนหน้านี้ได้มีกลุ่มนายทุนบุกรุก และแผ้วถางพื้นที่ป่าต้นน้ำเพื่อเตรียมนำไปขาย แต่เมื่อเกิดสำนักปฏิบัติธรรม และโครงการปลูกป่า ทำให้นายทุนไม่สามารถขายที่ดินได้

เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๙ พระครูบาเหนือชัย ตกเป็นข่าวครึกโครมอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับเป็นข่าวร้าย เมื่อพระรูปดังกล่าวถูก "มือมืด" มาดักยิงถึงวัด
โชคดีที่กระสุนด้านเสียก่อนเลยรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด !!!

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ ๐๑.๓๐ น. วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๙ มีคนร้ายเป็นชาย ๑ คน ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในสำนักปฏิบัติธรรม
ก่อนจะเดินไปยังกุฏิของพระครูบาเหนือชัย ขณะนั้นพระครูบาได้ตื่นขึ้นมาเพื่อปฏิบัติภารกิจประจำวันตามปกติ และเข้าห้องน้ำ ซึ่งแยกจากตัวกุฏิ

เมื่อได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์มาจอดใกล้กับกุฏิ พระครูบาเหนือชัย จึงตะโกนถามว่าใคร
แต่ไม่มีเสียงตอบ เกรงว่าจะมีคนมาลอบทำร้าย จึงส่งสัญญาณเป็นรหัสลับเฉพาะคนใกล้ชิด แต่ก็ยังเงียบอีก

ก่อนจะได้ยินเสียงลั่นไกปืนดังขึ้นถึง ๓ ครั้ง แต่กระสุนด้าน ยิงไม่ออก

ชายลึกลับพยายามเรียกให้พระครูบาออกมา แต่ไม่เป็นผล จึงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปในเวลา ๐๒.๐๐ น.

ต่อมา มีกระแสข่าวว่า ผู้ก่อเหตุ คือ "อดีตกำนัน" คนหนึ่งใน อ.แม่จัน เนื่องจากเข้าใจว่า พระครูบาเหนือชัย แจ้งให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้ามาตรวจสอบกรณีพื้นที่ป่า ถูกกลุ่มนายทุนแผ้วถางเพื่อนำไปขาย

จากนั้นอดีตกำนันคนดังกล่าวได้เข้าพบกับตำรวจ และยอมรับว่า เป็นคนที่บุกเข้าไปในวัด และมีความขัดแย้งกับทางวัดบ้าง แต่ไม่ได้มีความพยายามที่จะฆ่าพระครูบาเหนือชัย???

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพราะ "เมาสุรา" เท่านั้น และยินยอมที่จะยุติเรื่องราวทั้งหมด !?

ผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พระเณรภายในสำนักปฏิบัติธรรมต่างพากันหวาดผวาอย่างหนัก เพราะในช่วงตี ๒ ของทุกวัน ปกติจะต้องตื่นขึ้นมาปฏิบัติธรรม และออกบิณฑบาตในตอนเช้า
แต่วันนี้พระหลายรูปไม่กล้าที่จะออกบิณฑบาต เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย

ลูกศิษย์วัดรายหนึ่ง ลำดับเส้นทางขัดแย้งที่นำมาสู่เหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ชนวนความขัดแย้งทั้งหมดเกิดจาก "ที่ดิน" เนื้อที่กว่า ๑๐๐ ไร่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ของสำนักปฏิบัติธรรม และป่าต้นน้ำโดยรอบ ต่อมา สำนักบริหารจัดการพื้นที่ป่าที่ ๑๕ จ.เชียงราย ได้จำแนกให้เป็นพื้นที่ต้นน้ำ ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ใด ๆ ได้ และป่าต้นน้ำในส่วนนี้มีพื้นที่รวมทั้งสิ้นกว่า ๔๐๐ ไร่

จากนั้นพื้นที่ทั้งหมดถูกกำหนดให้เข้าอยู่ใน
"โครงการปลูกป่าโพธิ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครองราชย์ครบ ๖๐ ปี"

จึงทำให้นายทุนบางกลุ่มเสียประโยชน์

ก่อนหน้านี้ได้มีกลุ่มนายทุนบุกรุก และแผ้วถางพื้นที่ป่าต้นน้ำเพื่อเตรียมนำไปขาย แต่เมื่อเกิดสำนักปฏิบัติธรรม และโครงการปลูกป่าทำให้นายทุนไม่สามารถขายที่ดินได้ จึงบังคับขายที่ดินที่มิใช่ของตัวเองให้แก่สำนักปฏิบัติธรรมในราคาไร่ละ ๓๕,๐๐๐ บาท รวมมูลค่า ๓.๕ ล้านบาท

แต่เมื่อพระครูบาเหนือชัยไม่ยินยอม จึงเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง !?!?

นอกจากนี้ ลูกศิษย์วัดคนเดิมก็บอกด้วยว่า การกระทำครั้งนี้ของอดีตกำนันไม่ใช่ครั้งแรก!!! เพราะก่อนหน้านี้เมื่อเมาสุราก็มักจะเข้ามาอาละอาด และข่มขู่พระในวัดเป็นประจำ แต่ก็ไม่มีใครกล้ายุ่ง

ขณะที่ พ.ต.อ.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผกก.สภ.อ.แม่จัน ระบุว่า มีความขัดแย้งในที่ดินผืนดังกล่าวจริง เพราะพระครูบาเหนือชัยเข้าไปสร้างสำนักปฏิบัติธรรมทับที่ของนายทุนที่บุกรุกป่า ความคืบหน้าของคดีล่าสุด
อดีตกำนันคนดังกล่าวรับปากว่าจะยุติเรื่องทั้งหมดแล้ว ???

กระนั้น การดำเนินคดีของตำรวจก็ไม่ได้ทำให้พระในวัดสบายใจขึ้นแม้แต่น้อย
เพราะนอกจากอดีตกำนันคนดังกล่าวแล้ว ยังมีนายทุนอีกสองรายที่เสียประโยชน์เช่นกัน

นับเป็นเรื่องน่าแปลกที่พฤติกรรมการบุกรุกทำลายป่าถือเป็นความผิดขั้นพื้นฐานของนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลของรัฐบาล
แต่ในความเป็นจริง กลุ่มคนเหล่านี้ก็ยังลอยนวล แถมยังอยู่อย่างสุขสบายบนความพินาศของสาธารณสมบัติของชาติต่างหาก

จากรูปการณ์ที่เห็น และเป็นอยู่ ณ ปัจจุบันจึงนับว่า สถานการณ์การบุกรุก และทำลายทรัพยากรธรรมชาติของเมืองไทยมิได้ลดลงแม้แต่น้อย

แต่ที่ไม่ค่อยปรากฏข่าวมากนักก็เพราะอำนาจบารมีของ "ผู้มีอิทธิพล" ที่ยังคงมีอยู่ทั่วทุกหัวระแหงของประเทศ และชีวิตของนักอนุรักษ์ หรือแม้กระทั่ง "พระนักอนุรักษ์" ก็ยังคงเสี่ยงต่อการคุกคามด้วยอำนาจเถื่อนอยู่ทุกวัน

ดังเช่นคดีสังหาร นายเจริญ วัดอักษร แกนนำนักอนุรักษ์หินกรูด-บ่อนอก

หรือคดีสังหาร พระสุพจน์ สุวจโน พระนักอนุรักษ์ป่าแห่งสำนักปฏิบัติธรรมเมตตาธรรม ใน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

ส่วนบทบาทของพระครูบาเหนือชัย นอกจากจะเผยแผ่พระพุทธศาสนาแล้ว ก็ยังมีบทบาทของการเป็น "นักอนุรักษ์" เช่นกัน แต่โชคยังดีอยู่บ้างที่ยังรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ได้ !!!

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุดใจ : 11-02-2011 เมื่อ 19:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุดใจ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา