ดูแบบคำตอบเดียว
  #43  
เก่า 01-06-2018, 08:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,120 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ซึ่งตั้งแต่สมัยหลังพุทธกาลก็เริ่มมีการแตกแยกแล้ว เนื่องจากว่าทางฝ่ายเถรวาทที่นำด้วยพระมหากัสสปะ ๕๐๐ รูปทำการสังคายนาพระธรรมวินัย แล้วพระปุราณะเถระจากทักขิณาคีรีชนบท ถ้าเปรียบเป็นสมัยนี้ก็ประมาณแม่สายหรือสุไหงโกลก กว่าท่านจะเดินทางมาถึง ทางคณะสงฆ์ก็ทำการสังคายนาพระวินัยเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว คณะสงฆ์ก็แจ้งให้ท่านทราบว่าได้ทำการสังคายนาพระวินัยอย่างนี้ ๆ

ท่านก็บอกว่า "อาวุโส...เราขออนุโมทนาด้วย แต่เราจะปฏิบัติเฉพาะที่ได้ยินมาจากพระโอษฐ์องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น" ซึ่งตรงส่วนนี้เป็นส่วนที่ผิด เหตุที่ผิดก็เพราะว่าศีลบางข้อ พระพุทธเจ้าท่านอนุญาตให้เฉพาะช่วงเกิดทุพภิกขภัยหรือฉาตกภัย คือมีการแห้งแล้งอดอยาก ไม่มีอะไรจะฉัน อนุญาตให้ภิกษุฉันของสิ่งนั้นสิ่งนี้ได้ เก็บของเอาไว้ได้โดยที่ไม่เป็นอาบัติ เป็นต้น

แต่เมื่อเวลาเช่นนั้นล่วงพ้นไป พระพุทธเจ้าทรงประกาศยกเลิกสิกขาบทนั้น แต่ว่าพระปุราณะเถระท่านอยู่ในที่ไกล ข่าวคราวไปไม่ถึง ท่านก็ยังคงยึดถือปฏิบัติตามแบบเดิม ๆ ซึ่งกลายเป็นผิดไปแล้ว โดยอ้างว่าท่านได้ยินมาจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรง ซึ่งก็ใช่ แต่ตอนที่ท่านประกาศยกเลิก กลับไม่ได้ยิน จึงมีการแตกแยกทางการปฏิบัติกันตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

พอ ๑๐๐ ปีผ่านไป มีการสังคายนาพระวินัยใหม่ ก็ทำให้ภิกษุวัชชีบุตรไปรวบรวมบริวารได้ ๑๐,๐๐๐ รูป ทำสังคายนาพระวินัยแข่งกัน ทางด้านคณะสงฆ์ที่นำโดยพระยสกากัณฑบุตร รวบรวมพระอรหันต์ ๗๐๐ รูป ทำการสังคายนาพระวินัย ส่วนพระภิกษุวัชชีบุตรไม่รู้ว่าไปพาใครต่อใครมา จนได้ครบ ๑๐,๐๐๐ รูป เรียกว่าคณะมหาสังฆิกะ แล้วทำการสังคายนาพระวินัยกันเอง โดยที่อ้างว่าตัวเองมีคนมากกว่า ไม่ได้ดูว่าที่มากกว่านั้นคุณภาพของคนเป็นอย่างไร ฝ่ายสังคายนาที่ถูกต้องที่ยอมรับ ท่านมีพระอรหันต์ ๗๐๐ รูปช่วยกันทำ ส่วนของตนเองไม่ทราบว่าไปเอาหลวงปู่หลวงตามาจากที่ไหนบ้าง ครบ ๑๐,๐๐๐ รูปก็ทำกันเอง จึงเป็นต้นสายของมหายานตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

พอปี​ พ.ศ. ๓๒๕ มีการสังคายนาพระวินัยครั้งที่ ๓ ตอนนี้แตกกระจัดกระจายมาก แยกออกเป็นถึง ๑๘ นิกายด้วยกัน เพราะแต่ละคนก็ล้วนแล้วแต่ถือตามที่ครูบาอาจารย์ตัวเองสอน เรียกว่าอาจริยวาท ไม่ฟังคนอื่น ไม่สอบสวนทวนความกับพระไตรปิฎก ก็เลยกลายเป็นนิกายต่าง ๆ มากมาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2018 เมื่อ 16:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา