ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 02-08-2017, 22:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,955 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อันดับแรก ถ้าท่านใดยังเป็นมวยวัดปะฉะดะอยู่ พยายามเล็งเป้าได้แล้วว่าเราชอบอะไร แต่ว่าก็เป็นเรื่องที่พูดยาก เหมือนอย่างกับถามเด็ก ม.๔ ม.๕ ม.๖ ว่าอยากเรียนอะไรต่อในระดับมหาวิทยาลัย ? มักจะตอบเขาไม่ได้ มีแค่ไม่กี่คนที่มั่นใจตัวเองว่าอยากเรียนอะไร

พวกเราที่เป็นมวยวัดอยู่ก็เหมือนกัน ถ้าถามว่าจะเอากรรมฐานกองไหน ? “ไม่รู้...อยากได้ทุกกองนั่นแหละ” อยากได้ก็ไม่ว่า แต่ทำให้จริง ๆ สักกองหนึ่งก่อน เอากองที่เรารักเราชอบมากที่สุดก่อน แต่จะเป็นกองไหนก็ตามห้ามทิ้งอานาปานสติ ก็คือลมหายใจเข้าออกเป็นอันขาด เพราะว่าถ้าทิ้งกำลังจะไม่พอในการตัดกิเลส กำลังจะไม่พอกดกิเลส กิเลสจะตีหงายท้องเอา

แต่ถ้าหากว่าเรามีหลักแล้ว ก็ต้องเพิ่มความขยัน ก็คือวิริยบารมีและเพิ่มปัญญาบารมี ปัญญาบารมีไม่ต้องใช้มาก แค่รู้ตัวว่าจะตาย ตายแล้วจะไปไหน หาเป้าให้เจอแค่นี้พอ ในแต่ละวันมีสติระลึกรู้อยู่เสมอว่า เราอาจจะต้องตาย ชีวิตเรามีแค่ชั่วลมหายใจเข้าออกเท่านั้น หายใจเข้าถ้าไม่หายใจออก...ตาย หายใจออกถ้าไม่หายใจเข้า...ตายอีกเหมือนกัน

ในเมื่อความตายอยู่แค่ชั่วลมหายใจเข้าออก ถ้าเรายังประมาทอยู่ เราอาจจะต้องตกสู่อบายภูมิ กลายเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน เรียกว่าเสียชาติเกิด เราเกิดมาเป็นมนุษย์ด้วยต้นทุนของศีล ๕ มีความดีเพียงพอที่จะก้าวล่วงขึ้นสู่ชั้นสูงกว่านี้ แต่เราไปพลาดท่าตกลงสู่อบายภูมิ เรียกว่าเสียชาติเกิด เพราะว่าเกิดมาชาติหนึ่งกลับเอาดีไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2017 เมื่อ 02:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 65 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา