ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 21-02-2011, 21:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,234 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าหากว่าเราปฏิบัติไปถึงระดับที่สมาธิทรงตัว แล้วเกิดปัญญารู้ทุกข์รู้โทษว่า ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายได้สัมผัส ใจครุ่นคิดนั้น พาให้เราทุกข์แบบไหน ? เมื่อเห็นทุกข์เห็นโทษ ปัญญาก็จะเริ่มหาทางให้เราปล่อยวาง ก็จะไม่แบกสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไว้อีก

ก็จะพิจารณาว่าเหตุใด ตาเห็นรูปจึงสร้างทุกข์สร้างโทษให้แก่เราได้ ? เหตุใดหูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายสัมผัส ใจครุ่นคิด จึงสร้างทุกข์สร้างให้โทษแก่เราได้ ? เราก็จะเห็นว่า เกิดจากการที่เราไปช่วยนึกคิดปรุงแต่งเพิ่มเติมนั่นเอง

ตาเห็นรูปแล้วไปคิดว่าสวยหรือไม่สวย ชอบใจหรือไม่ชอบใจ ทั้งราคะและโทสะก็จะเกิดขึ้นตามอารมณ์นั้น ๆ หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายสัมผัส ใจครุ่นคิดก็เช่นกัน ถ้าหากว่าเราไปต่อเติมว่า ชอบหรือไม่ชอบ ก็จะเกิดเป็นราคะและโทสะขึ้นมาทันที

เมื่อเป็นดังนี้ อันดับแรก ถ้าหากว่าสมาธิเราทรงตัว กำลังเพียงพอ เราก็จะใช้วิธีเหมือนการรั้งม้าไว้ที่หน้าผา ขี่ม้ามา ม้าถลำจะตกหน้าผาแล้ว เราต้องฉุดรั้งเอาไว้ให้ได้ โดยการใช้กำลังสติและสมาธิหยุดเอาไว้ ไม่ให้สภาพจิตเราคิดต่อ ถ้าจิตใจของเราหยุดอยู่ในปัจจุบัน ไม่ไปปรุงแต่งเพิ่มเติม การคิดต่อไม่มี อารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง ก็ไม่สามารถที่จะเจริญงอกงามได้

หลังจากที่เราหยุดไว้บ่อย ๆ จนกระทั่งสภาพจิตเคยชิน ความเบาก็จะมีมากขึ้น จนกระทั่งเราเห็นโทษว่า การที่หยุดไว้อย่างนี้ ก็ต้องใช้กำลังมาบังคับอยู่ ถ้าเผลอเมื่อไรกิเลสตีกลับ เราก็ยังเสียท่า ตกเป็นทาสของ รัก โลภ โกรธ หลง เหมือนเดิม จิตใจก็จะเริ่มปลดวาง จากการที่เราต้องบังคับให้หยุด คราวนี้ก็ไม่ต้องบังคับแล้ว

เพราะว่าในเมื่อเห็นโทษ รู้ว่าเมื่อตาเห็นรูปแล้วเราไปคิด ชอบใจหรือไม่ชอบใจ ทำให้เกิด รัก โลภ โกรธ หลง ขึ้นมา เราก็จะหยุดคิดเอง ในเมื่อหยุดคิดหยุดการปรุงแต่ง กิเลสไม่สามารถจะเกิดต่อไปได้ นิโรธคือความดับก็จะเกิดขึ้นในใจของเรา ถ้าเราสามารถรักษาระยะของการดับกิเลสได้นานเพียงพอ กิเลสทั้งหลายไม่สามารถที่จะเจริญงอกงามต่อไปได้ สภาพจิตของเราก็จะผ่องใส เกิดการหลุดพ้นขึ้นมา นั่นคือหนทางที่เราจะก้าวไปสู่พระนิพพานของเรา

สำหรับตอนนี้ ก็ขอให้ท่านทั้งหลายกำหนดลมหายใจเข้าออก พร้อมกับคำภาวนาและภาพพระที่เราชอบใจ หายใจเข้ากำหนดรู้ตามไป หายใจออกกำหนดรู้ตามออกมา พร้อมกับคำภาวนาหรือพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้ยินสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันอาทิตย์ที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-02-2011 เมื่อ 03:02
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา