ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 16-07-2016, 22:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,630 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งว่า บุคคลที่รักษาศีลให้สมบูรณ์บริบูรณ์ได้ จึงต้องมีสมาธิเป็นเครื่องช่วย โดยปกติแล้วในขณะที่เราตั้งสติ ระมัดระวังไม่ให้ศีลขาด เท่ากับเรากำลังสร้างสมาธิให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่ว่าสมาธิในลักษณะอย่างนั้นบางทีก็เบาไป พังได้ง่าย จึงต้องมาจับลมหายใจเข้าออกอย่างจริง ๆ จัง ๆ รักษากำลังใจของเราให้มั่นคงอยู่กับลมหายใจเข้าออก เพื่อที่สภาพจิตของเราจะได้ไม่คิดชั่ว สภาพของวาจาก็จะได้ไม่พูดชั่ว สภาพของกายก็จะได้ไม่ทำชั่ว

ท่านที่บ่นว่าศีลเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ แสดงว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นยังภาวนาไม่เป็น รักษากำลังใจในการอยู่กับลมหายใจเข้าออกไม่เป็น จึงควรที่จะมาเน้นในเรื่องของการตามดูตามรู้ลมหายใจเข้าออก หรืออานาปานสติของเรา เพราะว่าอานาปานสติ เป็นหนึ่งในสัพพัตถกรรมฐาน ก็คือกรรมฐานที่ก่อให้เกิดประโยชน์สารพัด ซึ่งประกอบไปด้วยอานาปานุสติ คือการระลึกถึงลมหายใจเข้าออก พรหมวิหาร ๔ ก็คือการที่เราซักซ้อมสภาพจิตของเรา ให้ประกอบไปด้วยเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา

มรณานุสติ คือการที่เรารู้ตัวอยู่เสมอว่าต้องตาย และกายคตานุสติ มีสติอันรู้สภาพความเป็นจริงของร่างกายนี้อย่างชัดแจ้ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-07-2016 เมื่อ 14:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา