ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 28-08-2013, 19:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,619
ได้ให้อนุโมทนา: 151,818
ได้รับอนุโมทนา 4,413,361 ครั้ง ใน 34,209 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้ามัคคนายกเอาบาตรมาตั้งให้ญาติโยมใส่เงินเวลาพระเทศน์ ถามว่าเงินที่ได้จากการใส่บาตรพระที่เทศน์นั้น จะเป็นของพระที่เทศน์หรือเป็นของวัด ? เนื่องจากที่วัดของโยม เงินนั้นได้มาเท่าไรก็ตาม มัคนายกจะถวายพระเทศน์แค่ ๑๐๐ บาท ส่วนที่เหลือหักเข้าค่าน้ำ-ค่าไฟหมด โดยที่พระก็ไม่ได้เต็มใจ
ตอบ : จริง ๆ แล้วเขาถวายบูชากัณฑ์เทศน์ ถ้าโดยปกติแล้วเขาถือว่าเป็นสิทธิ์ของพระผู้ที่เทศน์นั้น แต่โดยปกติอีกเหมือนกันว่าพระผู้ที่เทศน์นั้นได้มาในฐานะของความเป็นพระ ดังนั้นอย่าไปคิดว่าเป็นเงินส่วนตัว ให้คิดว่าเป็นเงินสงฆ์ไว้เสมอ

แต่คราวนี้ว่าการคิดเป็นเงินสงฆ์นั้นต้องแบ่งส่วนหนึ่งลงเพื่อสงฆ์ อย่างเช่นว่าในส่วนของภัตตาหารพระ เพื่อที่จะได้เป็นส่วนของสังฆทานไป อีกส่วนหนึ่งลงช่วยการก่อสร้างหรือว่าซ่อมแซมวัดอะไรก็ได้ เพื่อที่จะได้ส่วนของวิหารทานด้วย แล้วอีกส่วนหนึ่งค่อยเอาไปใช้ในกิจการของตนเอง

แต่ถ้าตามที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกไว้ ก็คือ ให้ใช้ในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น เช่น เป็นค่ารถ ค่ายา ค่ารักษาพยาบาล ค่าอาหารการกิน เป็นต้น ส่วนที่เหลือก็ควรจะผลักเข้ากองบุญการกุศลเพื่อเพิ่มอานิสงส์ให้กับผู้ถวาย แต่คราวนี้ว่ามัคนายกเก่ง ก็เลยบีบคอบังคับพระ คุณเทศน์ไปก็ถือว่าได้ร้อยเดียวแล้วกัน ที่เหลือเดี๋ยวผมจัดการเอง จะว่าไปแล้วก็ใช้ได้ แต่วัดนี้ต่อไปพระจะน้อยลงเรื่อย ๆ


ถาม : แล้วถ้าตอนถวายพระเทศน์ คนถวายเขาคิดว่าถวายเป็นสังฆทานละครับ ?
ตอบ : ก็บอกแล้วว่าอย่าคิดว่าเป็นของส่วนตัว ได้มาเพราะเป็นพระ ให้ถือว่าเป็นเงินสงฆ์ไว้เสมอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2013 เมื่อ 19:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 237 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา