ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 22-08-2023, 00:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,586
ได้ให้อนุโมทนา: 151,727
ได้รับอนุโมทนา 4,411,642 ครั้ง ใน 34,176 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การปฏิบัติธรรมครั้งที่แล้ว ได้บอกเล่ากับญาติโยมไปว่า อาตมภาพรักษาศีลก่อนไปเรียนทหาร การเรียนทหารเขาสอนให้เราโกหก วิ่งมาจนกระทั่งเหงื่อเปียกโชกอย่างกับราดน้ำ ครูฝึกถามว่า "เหนื่อยไหม ?" ต้องตอบว่า "ไม่เหนื่อย"

ตั้งแต่ ๐๕.๐๐ น. ยัน ๐๗.๓๐ น. ทั้งวิ่ง ทั้งกายบริหาร ยังไม่มีอาหารลงถึงท้องเลย มายืนอยู่หน้าโรงอาหาร เขาตะโกนถามว่า "หิวไหม ?" ต้องตอบว่า "ไม่หิว" ตอแหลชัด ๆ..!

อาตมาภาพรักษาศีล ไม่เคยโกหก เพราะฉะนั้น..พอครูฝึกถามว่า "หิวไหม ?" เราก็รอเพื่อนตะโกนก่อนว่า "ไม่" แล้วเราค่อยส่งเสียงตามตรงคำว่า "หิว" เขาถามว่า "เหนื่อยไหม ?" พอเพื่อนขึ้นว่า "ไม่" เราก็ตะโกนต่อไปพร้อมกับเพื่อนตรงคำว่า "เหนื่อย" ใส่ไปเต็ม ๆ เลย เราไม่โกหกใคร..! เห็นหรือยังว่าถ้าพอจะมีปัญญาอยู่บ้าง ต้องรักษาศีลได้ ไม่ใช่อ้างความจำเป็นในสังคม

การที่พวกเรามาปฏิบัติธรรมจึงเป็นการฝึกฝนตัวเอง จะเรียกว่าทรมานตัวเองก็ได้ แต่ไม่ใช่การทรมานตัวเอง เป็นการทรมานกิเลส เพราะว่ากิเลสอยู่กับเรานี่เอง

เมื่อมีร่างกายนี้กิเลสก็ได้อาศัย
อยากเห็นรูป
อยากได้กลิ่น
อยากชิมรส
อยากสัมผัส
สารพัดอยาก
พวกเราเป็นทาสที่ดีมาก กิเลสจะเอาอะไรเราหาให้หมดเลย แต่กิเลสเป็นเจ้านายที่เลวมาก เราต้องการอะไรไม่เคยให้สักอย่างเลย แล้วควรจะคบกันต่อไหม ?


เพราะฉะนั้น..บอกกับกิเลสไปว่า "เอ็งอดเถอะ" ให้รู้ซะบ้างว่าไผเป็นไผ..! แค่ตั้งใจจริง ๆ เลย ว่าเราจะรักษาศีล ๘ ให้ได้ตลอดรอดฝั่งตั้งแต่บัดนี้ ไปจนถึงวันที่ ๑๔ สิงหาคม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2023 เมื่อ 03:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา