ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 11-12-2009, 11:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,309 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อันนี้เป็นการดูข้างนอก ดูว่าพระองค์ท่านตั้งแต่ประสูติในปี ๒๔๗๐ เป็นต้นมา พระองค์ท่านก็เติบโตขึ้นมา จากหม่อมเจ้าเล็ก ๆ ค่อย ๆ เติบโตขึ้นมาเป็นเด็กวัยรุ่น..เป็นหนุ่ม..ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์..ทรงอภิเษกสมรส..ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจต่าง ๆ เพื่อประเทศชาติและประชาชนโดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก เราจะเห็นว่าอายุกาลของพระองค์ผ่านวัยไปเรื่อย จากวัยหนุ่มก็เริ่มเข้าสู่วัยกลางคน และวัยชรา สภาพพระวรกายของพระองค์ท่านก็เหมือนกับเราทั้งหลายนี่เอง ก็คือ เป็นทารก เป็นเด็กเล็ก เป็นเด็กโต เป็นหนุ่มเป็นสาว เป็นวัยกลางคน เป็นคนแก่ มีความไม่เที่ยงเป็นปกติ เปลี่ยนแปลงแปรปรวนเรื่อย ๆ ไปตลอดเวลา

นอกจากความปกติในอนิจจลักษณะนี้แล้ว ความทุกข์ก็ยังปรากฏแก่พระองค์เป็นปกติ สภาพร่างกายของพระองค์นั้นประกอบไปด้วยความหิว ความกระหาย ความร้อน ความหนาว ความเจ็บไข้ได้ป่วย เหมือนเราทั้งหลายเช่นกัน โดยเฉพาะหน้าที่ต่าง ๆ ที่พระองค์ทรงแบกเอาไว้เพื่อคนไทยทั้งชาติ ทำให้ต้องตรากตรำพระวรกาย ไปแทบจะทุกซอกทุกมุมของประเทศไทย มีแต่ความเหนื่อยยาก ในสภาพเยี่ยงนั้นก็คือความทุกข์นั่นเอง โดยเฉพาะความทุกข์ของพระองค์ที่แบกภาระในการดูแลพสกนิกรของพระองค์ที่เปรียบเสมือนลูก ๆ จำนวน ๖๐ กว่าล้าน นั่นเป็นความทุกข์ที่หนักหนาขนาดไหน? ถ้าเป็นครอบครัวของเราอาจจะมีสองคนสามีภรรยา หรือมีลูกเล็ก ๆ สักคนหนึ่ง ก็เป็นสามคน หรือถ้ามีสักสองคนก็เป็นสี่คน ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยู่ก็เป็นหกคน ครอบครัวเล็ก ๆ ของเรายังดูแลบริหารให้ดีได้ยาก ยังต้องเหน็ดเหนื่อยในการทำมาหากินเพื่อเลี้ยงตนเอง เลี้ยงครอบครัว มีแต่ความทุกข์ แล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ต้องดูแลคนทั้งประเทศ ซึ่งประกอบไปด้วยพสกนิกร ๖๐ กว่าล้านนี้ พระองค์แบกความทุกข์เอาไว้หนักหนาสาหัสอย่างไร? เราคงพอจะนึกออก

นอกจากความทุกข์ปกติที่เราเป็นอยู่แล้ว พระองค์ท่านยังมีความทุกข์ของประเทศชาติ ซึ่งจะต้องแบกเอาไว้อย่างเต็มที่ด้วย ภาระหน้าที่ของเราไม่ได้หนึ่งในล้านของพระองค์ท่าน เราก็ว่าทุกข์มากแล้ว พระองค์ท่านจะต้องทนทุกข์มากขนาดไหน? ยิ่งทรงชราภาพไปทุกวัน แต่ว่าความหนาว ความร้อน ความหิว ความกระหาย ความเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ได้น้อยลงเลย โดยเฉพาะในปัจจุบัน พระองค์ท่าน ทรงเสด็จไปอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นปกติ เราก็จะเห็นได้ว่า แม้แต่บุคคลที่ทุกคนในประเทศพร้อมจะมอบกายถวายชีวิตให้ พระองค์ท่านก็ยังพบกับความทุกข์เป็นปกติ ดังนั้น..ตัวเราจะขึ้นชื่อว่าไม่ทุกข์นั้นไม่มี ท้ายที่สุดแล้วสักวันหนึ่งพระองค์ก็ต้องสวรรคต เสด็จสู่สวรรคาลัย จากเราไป ไม่สามารถที่จะยึดถือเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรต่อไปได้ นั่นคือสภาพที่ไม่มีอะไรเหลือเป็นตัวตนอยู่ เรียกกันว่า อนัตตา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2009 เมื่อ 14:51
สมาชิก 60 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา