ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 23-12-2013, 20:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,781 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..พวกเราทุกคนควรจะเข็ด ควรจะกลัว ควรจะเบื่อหน่าย ในสภาพของบ้านเราเมืองของเรา ที่วุ่นวายหาที่สิ้นสุดไม่ได้ มีแต่จะทำให้ประเทศชาติถดถอย มีแต่จะทำให้ต้องลำบากในการทำมาหากินมากขึ้นอีกหลายเท่า เมื่อเรารู้จักเข็ด รู้จักกลัว รู้จักเบื่อ เราก็ควรที่จะแสวงหาทางหลุดพ้น ซึ่งก็คือเราจะต้องปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ ๘ ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา ดังที่กล่าวมาแล้ว โดยตั้งกำลังใจเอาไว้ตอนท้ายว่า ถ้าเราตายลงไปเมื่อไร ขอไปอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระนิพพานเท่านั้น

เมื่อกำลังใจของเราแน่วแน่มั่นคงต่อเป้าหมายแล้ว ก็มาดูลมหายใจเข้าออกของเราเป็นหลัก ถ้ามีลมหายใจอยู่ กำหนดรู้ตามลมหายใจไป จะเป็น ๓ ฐาน ๕ ฐาน ๗ ฐาน หรือไม่เอาฐานเลยก็ได้ ถ้ามีคำภาวนาอยู่ กำหนดคำภาวนาไปด้วย ถ้าลมหายใจขาดหายไป คำภาวนาขาดหายไป ก็กำหนดรู้ไว้เฉย ๆ ว่าตอนนี้ลมหายใจไม่มี คำภาวนาไม่มี อย่าไปดิ้นรนหาลมหายใจใหม่ แล้วในขณะเดียวกัน ก็อย่าอยากให้เข้าไปถึงสภาพอย่างนั้น ให้ทำใจสบาย ๆ ว่าเรามีหน้าที่ภาวนา ส่วนกำลังใจจะได้แค่ไหนก็ไม่เป็นไร ได้มากก็เอามาก ได้น้อยก็เอาน้อย เป็นต้น

ขอให้ทุกคนรักษาสภาพกำลังใจของตน เกาะพระนิพพาน เกาะภาพพระไว้เป็นปกติ จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 43 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา