ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 06-12-2011, 09:18
ชยาคมน์'s Avatar
ชยาคมน์ ชยาคมน์ is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Apr 2009
ข้อความ: 222
ได้ให้อนุโมทนา: 21,244
ได้รับอนุโมทนา 155,513 ครั้ง ใน 2,941 โพสต์
ชยาคมน์ is on a distinguished road
Default

ความรู้สึกบางอย่างบอกออกมาเป็นตัวอักษรไม่ได้ครับ แต่ ๓ เรื่องที่บอกออกมาได้ คือ

๑. โชคดีที่ได้พบพระพุทธศาสนา

โชคดีที่ได้เกิดในเขตพระศาสนา ได้เกิดในแผ่นดินที่ในหลวงปกครองอยู่ แม้จะเกิดไม่ทันพระพุทธองค์ แต่ก็มีโอกาสได้พบพระอริยสงฆ์มากมาย แม้จะเกิดทันหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง (ไม่เคยพบท่าน) แต่อย่างน้อยก็ได้พบลูกศิษย์ของท่านอย่างพระอาจารย์เล็ก ท่านจิตโต หลวงตาวัชรชัย ฯลฯ และได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่ทำให้กลับเนื้อกลับตัวได้ (เมื่อก่อนเกเรครับ)

๒. ได้เข้าใจในสิ่งที่พระอาจารย์เล็กสอนว่า "ทำดีเพราะอยากทำ" และ "ให้เคารพและเกรงใจเหมือนวันแรกที่เคยรู้จักกัน"

ที่ผ่านมาได้มีโอกาสทำงานบุญอะไรหลาย ๆ อย่างที่อยากทำ และโชคดีที่ทำสำเร็จ โดยเฉพาะการพาคนไปบวชเนกขัมมะ ครบทุกรุ่นในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ นี้ และได้มีโอกาสพาคนใหม่หลายคนไปวัดท่าขนุน

หลายคนมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลายคนกลายมาเป็นขาประจำวัดท่าขนุน หลายคนเริ่มหันมาสนใจศึกษาและปฏิบัติมากขึ้น ขณะที่ตัวเองก็ได้ปฏิบัติมากขึ้น (แม้เพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำ)

ถึงตรงนี้ต้องขอขอบคุณ "ทิดตู่" อีกครั้ง เพราะจำได้ว่า วันนั้นได้เจอกันที่วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) มีพิธีหล่อพระอัครสาวก ๔ พระองค์ (ถ้าจำไม่ผิด) วันนั้นเป็นอีกหนึ่งวันที่พระอาจารย์เล็ก หลวงตาวัชรชัย และท่านจิตโตมาพร้อมกัน ซึ่งผมกำลังนั่งคิดอยู่ว่า ตั้งแต่ ธ.ค. ๕๓ ได้จัดทริปไปวัดท่าซุงทุกเดือน เพื่อพาคนไปกราบหลวงพ่อฤๅษี และไม่ได้ไปที่วัดท่าขนุนเลย เนื่องจากวันเสาร์ ๕ ที่วัดท่าซุงและบ้านสบายใจจัดงานตรงกัน ตอนนั้นรู้สึกห่างเหินกับวัดท่าขนุนมาก และบ้านอนุสาวรีย์ก็มีโอกาสไปไม่นาน จึงคิดว่า "อยากจะทำงานอะไรถวายพระอาจารย์เล็ก" แต่จะเข้าไปของานทำก็ไม่กล้า เพราะคิดว่าทีมงานของวัดท่าขนุนก็ทำหน้าที่ได้ดีมากแล้ว

โชคดีที่วันนั้นทิดตู่มาบอกว่า "พี่จัดทริปบ่อย น่าจะจัดทริปพาคนไปบวชเนกขัมมะ ที่วัดท่าขนุน" ดังนั้นจึงประกาศไปว่า จะจัดทริปพาคนมาบวชเนกขัมมะทุกรุ่นที่วัดท่าขนุนในปี พ.ศ. ๒๕๕๔ และได้รับความเมตตาจากพระอาจารย์เล็กเป็นอย่างสูงในการบวชทุก ๆ รุ่น

หลังจากจัดทริปไปบวชเนกขัมมะ วัดท่าขนุนแล้ว บ้านวิริยบารมีก็เปิดขึ้น หลายคนเดินทางไปลำบาก โดยเฉพาะคนใหม่ ๆ ก็เลยปรึกษา "ทิดตู่" ว่าจะจัดรถตู้บริการ โดยได้ทำมาจนถึงปัจจุบัน และจะพยายามทำจนกว่าสถานีรถไฟฟ้าจะสร้างเสร็จ

เครดิตในการจัดทริปวัดท่าขนุนและบ้านวิริยบารมีในปีนี้ จึงขอยกให้กับ "คณะสะพานบุญ" และ "กัลยาณมิตรทุกท่าน" ที่ร่วมกันทำให้เกิดขึ้นและทำให้สำเร็จได้ด้วยดี

ขอบคุณตัวเองที่ "อยากทำ" เพราะถ้าตัวเอง "ไม่อยากทำ" คนอื่นมาหว่านล้อมอย่างไร ก็ไม่มีวันที่ "จะลงมือทำ"

อีกสิ่งหนึ่งที่จะนำไปใช้ คือ "ผู้นำต้องมีความเด็ดขาด และผู้ตามต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้นำอย่างเคร่งครัด" ในการบวชเนกขัมมะรอบนี้ได้เห็นความเด็ดขาดของพระอาจารย์ในการ "ด่าออกไมค์" เนื่องจากมีผู้หวังดีทำหน้าที่เกินคำสั่ง แม้ว่าผู้หวังดีท่านนั้นจะเป็นผู้ที่ทำงานใกล้ชิดก็ตาม ซึ่งทำให้นึกถึงคำสอนของพระอาจารย์เล็กที่ว่า "ให้เคารพและเกรงใจเหมือนวันแรกที่เคยรู้จักกัน" บางครั้งหลายท่านอาจจะเคยชินและหวังดี จึงทำอะไรบางอย่างโดยพลการ (เปลี่ยนแปลงคำสั่งของพระอาจารย์) ด้วยความหวังดี แต่มันอาจจะทำให้แผนที่วางไว้คลาดเคลื่อน และคนที่ปฏิบัติตามท่านอื่นสับสนในคำสั่งได้

ที่ยกมาเล่า มิได้ต้องการตำหนิใคร แต่อยากจะขอบคุณผู้หวังดีท่านนั้นที่เป็น "ครู" ครับ เพราะในการทำการสิ่งใดก็ตาม โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับคนหมู่มาก จะต้องมีผู้ตัดสินใจเพียงคนเดียว คำสั่งนั้นจะต้อง "เด็ดขาด" และ "ศักดิ์สิทธิ์" ที่สำคัญ คือ "ผู้นำจะต้องปฏิบัติตนต่อผู้ตามทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่ลำเอียงเพราะความสัมพันธ์ส่วนตัว" ทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่พระอาจารย์เล็กทำให้เห็นในการบวชครั้งนี้ครับ

๓. สิ่งที่พบในการบวชเนกขัมมะ ทุกรุ่น

สิ่งสำคัญมาก คือ ได้พบเจอกัลยาณมิตรใหม่ ๆ มากมาย รุ่นที่ ๙ นี้เป็นรุ่นที่ไปกวาดต้อนมาจาก Facebook มาสิบกว่าคน และสิ่งหนึ่งที่มั่นใจ คือ แม้ Facebook จะมีคุณอนันต์ (หากใช้อย่างถูกต้อง) และมีโทษมหันต์ (หากใช้ในทางที่ผิด) ที่อย่างน้อยถ้าเรานำคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ในเรื่อง "มงคล ๓๘ ประการ" ข้อที่ ๑ การคบมิตรที่ดี ผมเชื่อว่า เราจะมีความสุขในการใช้ Facebook

ดังนั้น ทริปบวชเนกขัมมะ รุ่น ๙ นี้ จึงขอมอบเครดิตให้กับ "ชีกุ๋ย" ที่ขยันโพสต์ธรรมของพระอาจารย์เล็กอยู่เรื่อย ๆ และที่สำคัญ คือ ยินดีให้ผมไปลอกมาเผยแพร่ต่อ ทำให้เพื่อน ๆ ที่มาบวชเนกขัมมะ รุ่น ๙ นี้ได้อ่านคำสอนของพระอาจารย์เล็ก และอยากมาปฏิบัติธรรมกับท่าน

อาจจะยาวไปนิดนะครับ แต่ก็ขออนุญาตแบ่งปันประสบการณ์ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันครับ เมื่อวานนี้หลังจากออกจากวัดท่าขนุน ได้พาเพื่อน ๆ ไปกราบพระที่วัดทองผาภูมิ และเจ้าพ่อทองผาภูมิ เนื่องจากตลอดปี ๒๕๕๔ ไม่เคยพาคนไปกราบเลย นอกจากนั้น ยังพาเพื่อน ๆ ขึ้นไปชมนิทรรศการวันพ่อที่ห้องประชุมหลวงปู่สาย ชั้น ๓ เทศบาลตำบลทองผาภูมิ ซึ่งพระอาจารย์เล็กชมว่าจัดได้ดี เนื่องจากบางคนไม่ได้ไปชมในช่วงเช้า

ดังนั้นจึงออกจาก อ.ทองผาภูมิ ประมาณ ๑๔.๔๐ น. และมาถึงอนุสาวรีย์ฯ เวลา ๒๐.๓๐ น. รวม ๕ ชั่วโมง ๕๐ นาทีครับ (มาทางพระราม ๒ และใช้เวลาเติมแก๊สประมาณ ๓๐ นาที)

โมทนา
__________________
ร่วมรณรงค์การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง เริ่มต้นได้ด้วยตัวคุณเอง

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชยาคมน์ : 06-12-2011 เมื่อ 12:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ชยาคมน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา