ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 16-02-2017, 15:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,697 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๐ เรื่องที่จะกล่าวถึงในวันนี้ก็คือ การปฏิบัติธรรมของพวกเรา ส่วนหนึ่งสามารถรักษากำลังใจได้ในขณะที่ปฏิบัติอยู่ แต่พอขยับไปทำหน้าที่การงานอื่น ๆ ก็ไม่สามารถที่จะรักษากำลังใจให้ทรงตัวไว้ได้ เมื่อสมาธิเคลื่อนคลายออกมา ก็มักจะโดน รัก โลภ โกรธ หลง ทำอันตรายได้ทุกครั้ง

สำหรับปัญหานี้ความจริงแก้ไขได้ง่ายมาก คือ เราต้องเพิ่มสติและสมาธิของเราให้มากขึ้น คำว่า "มากขึ้น" ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่า ต้องได้สติสมาธิที่เป็นฌานสมาบัติระดับสูง ๆ แต่คำว่ามากขึ้น ก็คือ ให้เรามีสติระลึกรู้อยู่ในทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะเป็น ยืน เดิน นอน นั่ง กระทำการใด ๆ ก็ตาม เมื่อถึงเวลาก่อนที่จะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว เราต้องตั้งสติให้มั่นคงเสียก่อนแล้วค่อยขยับ สมาธิจะได้ไม่เคลื่อนไม่คลายไปไหน

ไม่ว่าจะทำหน้าที่การงานใด ๆ ให้เอาสติเข้าไปจับอยู่กับอาการเฉพาะหน้านั้น ๆ เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน ไม้กวาดไปทางด้านไหน ซ้ายหรือขวา แรงหรือเบา ยาวหรือสั้น ไม้ถูไปทางด้านไหน แรงหรือเบา ยาวหรือสั้น ให้กำหนดสติรู้อยู่ ไม่ว่าจะหุงข้าว ทำกับข้าว ซักผ้าก็เหมือนกัน สิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบหรือที่เราไปกระทำ ต้องมีสติรู้เท่าทัน โดยการประคับประคองรักษาอารมณ์สมาธิของเราเอาไว้เฉพาะหน้า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2017 เมื่อ 16:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา