ถ้าจะดูย้อนสูงขึ้นไป สมเด็จพระบรมราชชนก สมเด็จพระบรมราชชนนี สวรรคตไปแล้วทั้งคู่ ถ้าหากว่าจะดูสูงขึ้นไปอีก สมเด็จพระอัยยิกา ก็คือรัชกาลที่ ๕ ตลอดจนกระทั่งพระมเหสีก็สวรรคตไปก่อนหน้านั้นนานแล้ว ถ้าหากดูสูงขึ้นมาอีก สมเด็จพระมหัยยิกา ก็คือ รัชกาลที่ ๔ และพระมเหสีก็สวรรคตสิ้นไปนานแล้ว แต่ละรุ่น แต่ละลำดับของบรรพบุรุษ ก็ล้วนแล้วแต่เสด็จสู่สวรรคาลัยไปตามลำดับ ๆ ไม่สามารถที่จะทรงอยู่ได้ แม้ในปัจจุบัน พระวรกายของพระองค์ท่านก็แสดงความเป็นอนัตตา ไม่สามารถบังคับบัญชาได้อย่างใจ มีสภาพที่เรียกง่าย ๆ ว่าเหมือนคนแก่ทั่ว ๆ ไป มีสุขภาพทรุดโทรมไปด้วยความเจ็บไข้ได้ป่วยนั่นเอง
ดังนั้น ถ้าหากจะนับในหมู่คนที่เลิศที่สุดในประเทศของเรา โดยเอาในหลวงท่านเป็นหลักเป็นประธาน เราก็จะเห็นว่าพระองค์ท่านนั้นก็ประกอบด้วยความไม่เที่ยงเป็นปกติ ประกอบไปด้วยความทุกข์เป็นปกติและท้ายที่สุดก็เสื่อมสลาย สวรรคตไปเป็นปกติ เหมือนกับเราท้ายสุดก็ต้องเสื่อมสลายตายพังไปเช่นกัน ในเมื่อร่างกายมีความไม่เที่ยงอย่างนี้เป็นปกติ มีความทุกข์อย่างนี้เป็นปกติ และท้ายสุดไม่อาจยึดถือมั่นหมายเป็นเรา เป็นของเราได้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีสภาพอย่างนี้ คือ เกิดมาด้วยความทุกข์ เกิดมาในโลกที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนนี้ เราก็คงไม่พึงปรารถนามันอีก ถ้าอย่างนั้นก็เหลือที่เดียวที่เราจะไป คือพระนิพพาน
การจะไปพระนิพพานนั้น อันดับแรกต้องมีความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างจริงใจ อันดับที่สองต้องรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์ ไม่ล่วงละเมิดด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้คนอื่นเขาทำ และไม่ยินดีเมื่อเห็นคนอื่นเขาทำ ท้ายสุดมีความรู้ตัวอยู่เสมอว่าร่างกายที่ไม่เที่ยงอย่างนี้ มีแต่ความทุกข์อย่างนี้ ในที่สุดก็ต้องเสื่อมสลายตายพังอย่างนี้ เราไม่ต้องการอีกแล้ว เราต้องการที่เดียวคือพระนิพพาน เมื่อสรุปรวบยอดมาตรงนี้ได้ ก็ยกกำลังใจเกาะพระนิพพาน หรือเกาะภาพพระของเราเอาไว้
ถ้ายังมีลมหายใจเข้าออกอยู่ ก็ให้กำหนดรู้ลมหายใจไป ถ้าไม่มีลมหายใจเข้าออก ไม่มีคำภาวนา ก็ให้กำหนดรู้อยู่ว่า ไม่มีลมหายใจเข้าออก ไม่มีคำภาวนา กำหนดรู้อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ยินเสียงสัญญาณบอกหมดเวลา
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๒
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2009 เมื่อ 10:25
|