ดูแบบคำตอบเดียว
  #15  
เก่า 05-04-2017, 20:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,403,723 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในปัจจุบันนี้พวกเราส่วนใหญ่เป็นทุกข์เพราะความคิดตัวเอง ตอนเราเกิดความคิดขึ้นมาจะทำให้เราฟุ้งซ่าน เมื่อฟุ้งซ่าน รัก โลภ โกรธ หลง ก็ถล่มทลายเข้ามาหาเรา เพราะเราไปเปิดประตูรับโจรเข้าบ้านมาเอง รักษากำลังใจของตัวเองไม่ได้ เพราะว่าเราขาดสติ

ถ้าหากว่าญาติโยมหยุดกำลังใจตัวเองไว้กับปัจจุบัน ซึ่งวิธีหยุดที่ดีที่สุดก็คือ อยู่กับลมหายใจเข้าออกของเรา ถ้าความรู้สึกทั้งหมดอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก จะไม่ส่งไปในอดีต ไม่ส่งไปในอนาคต

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า อะตีตัง นานวาคะเมยยะ นัปปะฏิกังเข อะนาคะตัง ไม่ควรที่จะคิดถึงความหลังคืออดีต ไม่ควรที่จะฟุ้งซ่านถึงเรื่องที่ยังมาไม่ถึง คืออนาคต ปัจจุปปันนัญจะ โย ธัมมัง ตัตถะ ตัตถะ วิปัสสะติ ต้องหยุดอยู่กับปัจจุบันธรรม คือ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ เท่านั้น จึงจะสามารถรู้แจ้งเห็นจริงได้ เพราะสภาพจิตที่อยู่กับปัจจุบันของเรานั้น รัก โลภ โกรธ หลง ไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้

เมื่อ รัก โลภ โกรธ หลง ไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ กรรมใหม่ของเราไม่มี กรรมเก่าอาศัยการขัดเกลาด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา ไปเรื่อย ๆ เหมือนกับเราเติมน้ำจืดลงในน้ำเค็ม เรามีน้ำเค็มอยู่ ๑ ถ้วย เอาน้ำจืดใส่ลงไปเรื่อย ๆ
ใส่ไปจนล้นภาชนะเลย น้ำเค็มไม่ได้หายไปไหน แต่น้ำจืดมีมากกว่า ความเค็มก็ไม่สามารถที่จะแสดงออกมาได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2017 เมื่อ 20:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 68 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา