"ไปถึงวันแรกก็มีหมามายัดเยียดตัวเองเป็นหมาของอาตมาถึงกุฏิเลย เล่าให้ท่านอาจารย์มหาสันติฟังว่า อาตมาเข้ากรุงเทพฯ ไปทำงานใหม่ ๆ เงินเดือนก็น้อย อยู่ ๆ ไป ๕-๖ เดือน มีหมามาอยู่ด้วย ๘ ตัว ก็ต้องตัดสินใจว่า จะเลี้ยงหมาดีหรือเลี้ยงตัวเองดี
ไปกราบเรียนถามหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านบอกว่าให้ไปพลิกคางหมาดุู ตรงใต้คางจะมีตุ่มอยู่ตุ่มหนึ่ง แล้วมีขนแข็ง ๆ ยาว ๆ เหมือนหนวดแมว ท่านบอกว่า ถ้าขนเส้นเดียว หรือ ๒-๓ เส้น ส่วนใหญ่เป็นหมาที่มาจากข้างบน คือเป็นพรหมหรือเทวดามาก่อน ถ้าหากว่ามีขนเส้นเดียวเป็นราชาหมา ไปไหนหมาอื่นจะกลัว ท่านบอกว่าหมาพวกนี้ ถ้าหากอยู่กับเจ้าของที่มาต่ำกว่า เขาจะหนีไปหาคนที่มาเท่ากันหรือบารมีสูงกว่า
ปรากฏว่าช่วงที่มีหมาอยู่ ๘ ตัวนั้น มีตัวหนึ่งเป็นหมาตัวใหญ่มาก หน้าตาเหมือนหมาป่าชัด ๆ เลย เจ้าของเอาโซ่มาล่าม ลากกลับไปเมื่อไร ถ้ากระชากโซ่ขาดก็หนีมาหาอาตมาทุกครั้ง อาตมาก็ไม่รู้ว่าจะบอกเจ้าของเขาอย่างไรว่า บารมีคุณยังสู้หมาไม่ได้ หมาก็เลยต้องหนีไปหาคนอื่น เล่าให้ท่านอาจารย์มหาสันติฟังเสร็จสรรพเรียบร้อย เปิดประตูออกมา เจอหมานอนอยู่หน้าประตู ๑ ตัว บอกว่าเพิ่งจะเล่าจบ หมาก็ยัดเยียดตัวเองมาให้อาตมาเลี้ยงแล้ว แล้วก็เป็นหมาที่นิสัยดีมาก เพราะว่าอาหารวางอยู่เต็มหน้าห้อง ท่านอาจารย์มหาสันติขนมาจากวัด ถ้าเราส่งให้ถึงจะกิน แสดงว่าเป็นหมาที่รู้ภาษาจริง"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-04-2016 เมื่อ 21:38
|