สิกขาบทที่ ๙ กล่าวว่าภิกษุรับเองก็ดี ให้ผู้อื่นรับแทนก็ดี ซึ่งสิ่งของทั้งหลายเหล่านั้น ต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์เท่ากัน ในเมื่อเป็นในลักษณะอย่างนั้น พระเราไม่มีทางที่จะเลี่ยงเลย ในการที่จะไม่ต้องอาบัติในสองจุดนี้
แม้กระทั่งพระทางฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ที่ท่านให้มีบุคคลมารับแทนเพื่อที่อาบัติจะได้พ้นตัว แต่พอไปเจอสิกขาบทที่ ๙ ก็ไม่พ้นเช่นกัน เพราะว่ารับเองก็ดี ให้ผู้อื่นรับแทนก็ดี โดนอาบัติเท่ากัน ในลักษณะเดียวกัน
ไม่ว่าสิ่งที่ใช้จะเป็นเงินทองโดยตรง หรือว่าจะเป็นเช็ค จะเป็นตั๋วแลกเงินก็ตาม ล้วนแล้วแต่ผิดเท่ากัน เพราะว่าบาลีใช้คำว่า รูปิยะสังโวหารัง ก็คือ สิ่งที่ใช้แทนเงินทองโดยโวหาร ก็แปลว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้าเราไปนึกถึงในมหาปรินิพพานสูตร วาระสุดท้ายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสแก่พระอานนท์ว่า อานันทะ...ดูก่อนอานนท์ ในกาลข้างหน้าสิกขาบทใดที่ไม่เหมาะสมแก่ยุคสมัย หากสงฆ์พึงหวังจักสวดเพิกถอนก็ได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-04-2017 เมื่อ 11:47
|